WHAUP ฟอร์มเด่น โชว์กำไร Q 3/60 โต 208% เดินหน้าลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 63.6 เมกะวัตต์ ภายในปี 2562

          บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2560 มีรายได้จากการขายและการให้บริการ (ธุรกิจน้ำ) 406 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% และมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน (ธุรกิจพลังงาน) 554 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 346% ขณะที่มีกำไรสุทธิ 570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 208% จากความต้องการใช้น้ำเติบโตเพิ่มขึ้น และโรงไฟฟ้า 3 โครงการได้เปิดดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ตามแผนงานที่กำหนดไว้ รวมถึง Gheco One กลับมาเดินผลิตไฟฟ้าเต็มกำลัง ด้าน CEO ""วิเศษ จูงวัฒนา"" เผยเดินหน้าลงทุนตามแผนทั้งธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช และธุรกิจโรงไฟฟ้า ใน 2 ปีข้างหน้า (2561-2562) เปิด COD เพิ่มอีก 63.6 เมกะวัตต์ 
          นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส3/2560 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการ (ธุรกิจน้ำ) 406 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน (ธุรกิจพลังงาน) 554 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิส่วนที่บริษัทเป็นเจ้าของ 570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 385 ล้านบาท หรือคิดเป็น 208 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 
          ส่วนงบผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรก บริษัทฯมีรายได้จากการขายและการให้บริการ (ธุรกิจน้ำ) 1,063 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน (ธุรกิจพลังงาน) 1,491 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิส่วนที่บริษัทเป็นเจ้าของ 1,543 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,036 ล้านบาท หรือคิดเป็น 204% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 
          สำหรับ สาเหตุการเติบโตเพิ่มขึ้นของผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2560 เนื่องจากรายได้จากธุรกิจน้ำเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของลูกค้า รวมถึงการเปิดดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าใหม่ๆในช่วงปลายปี 2559 จนถึงปัจจุบัน อาทิ โครงการโรงไฟฟ้า บี.กริม เพาเวอร์ (ดับบลิวเอชเอ) 1 โครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ วีทีพี โครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 1 และโครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 2 อีกทั้งโครงการโรงไฟฟ้า เก็คโค่วันได้เดินเครื่องเต็มกำลัง ตั้งแต่ไตรมาส 2/60 รวมถึงรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า กัลฟ์ วีทีพี ที่เปิดดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา 
          ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) กล่าวเพิ่มว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2560 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนตามแผนงานที่วางไว้ อาทิ การลงทุนในธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช (NGD) การลงทุนธุรกิจพลังงานโรงไฟฟ้า ซึ่งล่าสุดในต้นเดือนพฤศจิกายน ได้เปิดดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 3 ขนาด 125 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าร่วมทุนระหว่างกลุ่มบริษัทย่อย และบริษัท กัลฟ์ เอ็มพี จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 25.01 และร้อยละ 74.99 ตามลำดับ ส่งผลให้บริษัทฯมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุน ในโรงไฟฟ้าที่เริ่มดำเนินผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 478.4 เมกะวัตต์ 
          อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาโรงไฟฟ้าอีก จำนวน 63.6 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการลงทุน ซึ่งจะทยอยดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ทั้งหมดในปี 2561-2562 และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม คาดว่าจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4/2562 เป็นการลงทุนที่สอดคล้องกับ กลยุทธ์ของ WHAUP ในการให้บริการด้านพลังงานแบบครบวงจรเพิ่มเติมจากการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม และมีโอกาสเติบโตตามการขยายตัวของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมภายใต้ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป อย่างต่อเนื่อง