ผถห.SPPT ไฟเขียวทุ่ม 175 ลบ.ซื้อหุ้น TERA ร้อยละ 51 จ่อร่วมทุนบริษัทไอทีอีก 1-2 แห่ง คาดได้ข้อสรุปภายในปี 61

          ผู้ถือหุ้น SPPT สะบัดธงเขียว!!! สยายปีกสู่ธุรกิจวางระบบและให้บริการด้านไอทีขนาดใหญ่แบบครบวงจร ทุ่ม 175.44 ล้านบาท ซื้อหุ้น TERA สัดส่วน 51% "ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์" หวังเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ จ่อร่วมทุนบริษัทไอทีเพิ่มอีก 1-2 แห่ง คาดได้ข้อสรุปภายในปี 61 หนุนผลงานโตก้าวกระโดด 
          ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ประธานกรรมการ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SPPT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2560 มีมติให้บริษัทฯเข้าซื้อหุ้น บริษัท เทอร์ราไบท์ เน็ท โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (TERA) จำนวน 87,720,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 51.00 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด จากบริษัท เอนนี่ ไอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด นายสุรสิทธิ์ คิวประสพศักดิ์ และ นายจิราวัฒน์ จารุฐิติพันธุ์ คิดเป็นมูลค่าลงทุนทั้งสิ้น 175.44 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขยายไลน์ธุรกิจจากการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มาสู่ธุรกิจวางระบบและให้บริการด้านไอที 
          สำหรับ TERA เป็นผู้ดำเนินธุรกิจวางระบบและให้บริการด้านไอทีขนาดใหญ่แบบครบวงจร (System Integration – SI) เช่นระบบ Server, Storage, Network และ IT Security และมีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีรายได้เฉลี่ยปีละประมาณ 400 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี มีคู่ค้าภาคเอกชนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ในหลายอุตสาหกรรม ไว้วางใจให้บริษัทฯเป็นผู้วางระบบ
          "การตัดสินใจของ SPPT ในครั้งนี้ จะสามารถผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เป็นไปในทิศทางที่ดีและเติบโตอย่างมั่นคง เนื่องจาก ความต้องการของตลาดยังมีอยู่สูง เราจึงเล็งเห็นโอกาสที่จะได้มาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้น จากงานโครงการต่าง ๆ ทั้งของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ที่มีมูลค่ารวมหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งสอดรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่จะผลักดันประเทศก้าวเข้าสู่ยุคสังคมดิจิทัลด้วย" ดร.ปกรณ์ กล่าว
          ดร.ปกรณ์ กล่าวว่า บริษัทฯมีความมุ่งมั่นที่จะขยายฐานรายได้ของบริษัทฯ แข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาการเข้าซื้อหรือร่วมทุนในกิจการที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับธุรกิจไอที ซึ่งมีหลายรายที่เข้ามาเจรจา และตอนนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องความคุ้มทุน อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ต้น ปี 2561 คาดว่าจะมีความชัดเจน 1-2 ดีล ดังนั้น จึงมั่นใจว่า ผลประกอบการในปี 2561 จะพลิกกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้อย่างเต็มรูปแบบ 
          อนึ่ง ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ยังอนุมัติให้บริษัทฯ จำหน่ายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของบริษัทฯบางส่วน ในสวนอุตสาหกรรมอินทรา ถนนสายบางปะอิน-นครสวรรค์ (ทล.32) ตำบลน้ำตาล อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เนื้อที่รวม 10-1-65.0 ไร่ ซึ่งประกอบด้วยอาคารโรงงานพร้อมสำนักงาน 2 ชั้น อาคารห้องเครื่อง 2 ชั้น อาคาร WATER TANK อาคาร WASTE WATER 2 ชั้น ถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก รั้ว สูงประมาณ 2 เมตร ยาว 355 เมตร 
          มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 253 ล้านบาท ให้แก่บริษัท พรีม่า โกรท จำกัด ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน ซึ่งเป็นไปตามแผนการปรับโครงสร้างกิจการ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและทิศทางของอุตสาหกรรมในปัจจุบัน โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้ไปใช้ลงทุนใน TERA และลงทุนอื่น ๆ ตามความเหมาะสม ตลอดจนใช้คืนหนี้สินและเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท