บรีส ชูกิจกรรม Outdoor Classroom Day เรียนรู้ เล่น เลอะ นอกห้องเรียน เปิดประสบการณ์เด็กไทยเจนอัลฟา สู่พัฒนาการรอบด้าน

          บรีสเดินหน้าสานต่อปรัชญา "Dirt is Good กล้าเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์" ไปสู่กิจกรรมสร้างสรรค์ "Outdoor Classroom Day เรียนรู้ เล่น เลอะ เปิดประสบการณ์นอกห้องเรียน" ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เน้นจุดประกายให้ครูและผู้ปกครองตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการเรียนรู้นอกห้องเรียน ผ่านการเล่นอย่างสร้างสรรค์ที่เยาวชนไทยในเจนอัลฟ่าได้รับ พร้อมจับมือคู่ค้าโปรโมทกิจกรรมแน่นยาวจนถึงสิ้นปี 
          จากการศึกษาพบว่า ผู้ปกครองตระหนักดีว่า การเล่นมีผลต่อพัฒนาการของเด็ก โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 98 เห็นด้วยว่า การเล่นเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ทักษะสำคัญในชีวิต และร้อยละ 93 ของผู้ปกครองยังเชื่อว่า เด็กๆ จะไม่ได้เรียนรู้อย่างรอบด้าน หากไม่ได้เล่น ซึ่งผลสำรวจที่ได้สอดรับกับการดำเนินงานของบรีสตลอดเวลาเกือบ15 ปีที่ผ่านมา ที่มุ่งสนับสนุนให้เด็กๆ ออกไปเล่นนอกบ้าน เพราะบรีสเชื่อว่า การเล่นนอกบ้านจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในด้านต่างๆ ได้ดี แม้ว่าการเล่นจะตามมาด้วยความเลอะ แต่ทุกคราบของความเลอะที่เกิดขึ้นก็มีประสบการณ์ มีพัฒนาการต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการวางตำแหน่งทางการตลาดครั้งแรกของผลิตภัณฑ์ซักผ้า ซึ่งไม่เหมือนใคร 
          นางสาวจณัญญา เมฆวัฒนาผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาตลาด ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน บริษัท  ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้ามามีบทบาท ในชีวิตประจำวันอย่างมาก ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มผู้ปกครองที่มีข้อจำกัดในด้านเวลา บ่อยครั้งจึงปล่อยให้อุปกรณ์เล่านี้เป็นเพื่อนและเป็นพี่เลี้ยงลูก เด็กๆ จึงใช้เวลาทำกิจกรรมอยู่แต่ในบ้าน ทำให้พัฒนาการบางอย่าง อาจจะไม่ได้รับการส่งเสริมอย่างเพียงพอ  กิจกรรม Outdoor Classroom Day เรียนรู้ เล่น เลอะ เปิดประสบการณ์นอกห้องเรียนจึงเกิดขึ้น โดยมุ่งเสริมสร้างการเรียนรู้นอกห้องเรียนอย่างสร้างสรรค์ ให้เด็กและเยาวชนได้พัฒนาทักษะต่างๆ ผ่านการเล่น และการได้ลงมือปฏิบัติจริง สะท้อนความมุ่งมั่นของบรีสที่ต้องการส่งเสริมให้เด็กได้ใช้เวลาเล่นนอกบ้าน  เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้อย่างเต็มที่ ในขณะที่ผู้ปกครองก็ไม่ต้องกังวลกับคราบเลอะสกปรกที่จะเกิดขึ้นกับเสื้อผ้า เพื่อให้เด็กไทยได้สัมผัสประสบการณ์จากการเรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริง กิจกรรม Outdoor Classroom Day ในปีนี้จึงใช้รูปแบบของกิจกรรมฐาน ที่มีทั้งส่วนของการเรียนรู้เชิงทฤษฎีจากห้องเรียนธรรมชาติ ร่วมกับการเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเองในแต่ละฐานกิจกรรมที่สนุกสนานและท้าทาย เพื่อเสริมสร้างความสามารถ ทักษะการเรียนรู้ และประสบการณ์ตรงของความเลอะ ที่ช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ของเด็กให้ดียิ่งขึ้น 
          กิจกรรม Outdoor Classroom Day ที่จัดขึ้น ณ ฟาร์มตาเล็ก จ.นครนายก มีทั้งสิ้น 3 ฐานกิจกรรม ซึ่งบรีสตั้งใจออกแบบรูปแบบการเรียนรู้ที่ควบคู่ไปกับการเล่น ให้สอดคล้องกับความสนใจของเด็กๆ ประกอบด้วย ฐานแรก-พี่เลี้ยงนักสำรวจ มุ่งให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของสัตว์เลี้ยงนานาชนิด เช่น หมู เป็ด ห่าน ไก่ ปลา และได้ลองให้อาหารสัตว์อย่างใกล้ชิด ฐานที่ 2-พี่เลี้ยงปลูกผัก ศึกษาลักษณะและประโยชน์ของพืชผัก ควบคู่ไปกับการฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษผ่านการเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ ทั้งยังได้เพาะเมล็ดพันธุ์พืชใน
กระถางและนำกลับไปดูแลด้วยตนเองที่บ้าน และฐานสุดท้ายเป็นฐานดำนาที่เน้นความสำคัญของ "ข้าว" และการดำนาปลูกข้าวตามวิถีเกษตรกรรมของไทย 
          นอกเหนือจากการจัดกิจกรรมสำหรับเยาวชนในรูปแบบของฐานการเรียนรู้แล้ว บรีสยังเล็งเห็นถึงบทบาท ของครูว่ามีความสำคัญในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมและทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้รอบด้าน จึงได้จัดช่วง สัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อเปิดโอกาสให้คุณครูได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนทั้งองค์ความรู้และแนวทาง การสอนแบบใหม่ๆ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชั้นเรียนให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการเรียนรู้ของเด็กอีกด้วย
          นอกจากนี้ บรีสยังร่วมกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เพื่อจัดกิจกรรม "Outdoor Classroom Day เรียนรู้ เล่น เลอะ เปิดประสบการณ์นอกห้องเรียน" โดยหวังส่งต่อแนวคิดในการส่งเสริมพัฒนาการให้แก่เด็กไทยผ่านการเล่น ในรูปแบบต่างๆ ไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นพ่อแม่ ผู้ปกครองอย่างทั่วถึง ให้การเล่นเลอะได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเด็กๆ เพื่อการมีพัฒนาการรอบด้านอย่างต่อเนื่อง 
          นางสาวจณัญญา กล่าวในตอนท้ายว่า "เราเชื่อมั่นในเรื่องการส่งเสริมและปลูกฝังให้เยาวชนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง สิ่งที่เด็กๆ จะได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรม "กิจกรรม Outdoor Classroom Day เรียนรู้ เล่น เลอะ เปิดประสบการณ์นอกห้องเรียน" นั้น ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของความสนุกสนาน แต่ยังเป็นประสบการณ์ ที่มีคุณค่า ที่ได้เรียนรู้ด้วยตัวเองโดยไม่กลัวเลอะ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการและส่งเสริมให้เด็กๆ เติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศต่อไป"