EPCO เปิดแผนปี 62ทุ่มงบ700ลบ.ลุยขยายลงทุน ธุรกิจโรงพิมพ์โตกระฉูด-รับรู้รายได้โซลาร์ฟาร์มคึกคัก มั่นใจผลงานแข็งแกร่งเติบโต จนยั้งไม่อยู่

          โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) เปิดแผนปี 62 เล็งทุ่มงบลงทุนขยายทุกธุรกิจกว่า 700 ล้านบาท เดินหน้าต่อยอดธุรกิจโรงพิมพ์ ดันWPS บุกธุรกิจใหม่ทำ "กล่องลูกฟูก" คาดรับรู้รายได้กลางปีนี้ ควบคู่ขยายโรงไฟฟ้าในเวียดนามและญี่ปุ่น หนุนกำลังการผลิตรวมปีนี้แตะ 555 เมกะวัตต์ จากที่มีในมือ 424 เมกะวัตต์ ประเมินผลประกอบการปีนี้สุดแข็งแกร่งมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด 
          นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO เปิดเผยว่า แผนการขยายการลงทุนในปีนี้ บริษัทฯเตรียมงบลงทุนไว้ 700 ล้านบาท โดยจะนำไปต่อยอดธุรกิจ WPS ประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อลงทุนในธุรกิจใหม่เป็นประเภทบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูก คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิต และรับรู้รายได้ช่วงกลางปีนี้ โดยในปัจจุบันความต้องการใช้กล่องลูกฟูกมีการเติบโตที่ดี เนื่องจากการเติบโตการขายของในระบบออนไลน์ของคนไทย ซึ่งขณะนี้ได้เจรจากับพันธมิตร เพื่อจำหน่ายกล่องลูกฟูกให้บางส่วนแล้ว จึงมั่นใจว่าธุรกิจใหม่ น่าจะมีแนวโน้มที่ต่อเนื่อง 
          ส่วนงบลงทุนอีก 500 ล้านบาท จะเตรียมนำไปใช้สำหรับลงทุนโครงการพลังงานทดแทน ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งขณะนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม คาดเห็นความชัดเจนได้ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ 
          ขณะเดียวกัน ยังมีความสนใจเข้าประมูล โครงการโซลาร์ลอยน้ำในเขื่อนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งคาดว่าหน่วยงานภาครัฐจะออกประกาศร่างขอบเขตของงาน(TOR) ได้เร็วๆ นี้
          สำหรับภาพรวมผลประกอบการปี 2562 ประเมินว่าจะยังคงทำสถิติสูงสุดแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงพิมพ์เพิ่มขึ้น ซึ่งมาจากบริษัท ดับบลิวพีเอส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ WPS ภายหลังจากซื้อกิจการมาจาก บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG ในปีนี้จะสามารถรับรู้รายได้เต็มปี ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ ปีละประมาณ 500 ล้านบาท และ จะทำให้ธุรกิจโรงพิมพ์ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมธุรกิจกล่องลูกฟูก ซึ่งจะเริ่มในครึ่งปีหลังของ 2562
          ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์ฟาร์ม คาดว่าปีนี้จะมีการดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(COD) เพิ่มขึ้น 131 เมกะวัตต์ โดยจะมาจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ ประเทศเวียดนาม 110 เมกะวัตต์ช่วงกลางปีนี้และโรงไฟฟ้าโซลาร์ประเทศญี่ปุ่น 21 เมกะวัตต์ ดังนั้น จะทำให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 555 เมกะวัตต์ 
          ทั้งนี้ โครงสร้างของสัดส่วนรายได้ปี 2562 มีสัดส่วนเท่ากัน 50% ภาพรวมของสัดส่วนกำไรปีนี้ คาดว่าจะมาจากธุรกิจโรงพิมพ์ 33% และมาจากธุรกิจไฟฟ้า 67% จากปีก่อนธุรกิจโรงพิมพ์ 25% และไฟฟ้า 75%