วันที่ 2 เรือใบเล็ก “อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส” ศึกคิงส์คัพรีกัตต้าผู้นำกลุ่มโชว์ฟอร์มเยี่ยมทั้งออพติมิสต์และเลเซอร์

          การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ครั้งที่ 32 ดำเนินมาถึงวันที่ 4 ของสัปดาห์ซึ่งเป็นวันพักระหว่างการแข่งขันของรายการเรือใบใหญ่ (Reserve day) วันนี้จึงมีเฉพาะการแข่งขันเรือใบเล็ก "อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส" ซึ่งดำเนินเป็นวันที่ 2 ต่อจากเมื่อวาน เริ่มวันด้วยกระแสลมในเกณฑ์ดี แรง 8-10 นอต ทำให้ในวันนี้คณะกรรมการสามารถจัดแข่งขันรุ่น 420 และรุ่นเลเซอร์ได้ถึง 4 เที่ยว (รวมทั้งหมด 8 เที่ยวของรายการ) ยกเว้นรุ่นออพติมิสต์ เนื่องจากในช่วงหลังบ่ายโมง ลมเริ่มเบาลง คณะกรรมการจึงพิจารณาให้แข่งออพติมิสต์เพียง 3 เที่ยว (รวมทั้งหมด 7 เที่ยวของรายการ) โดยในรุ่นออพติมิสต์ชายยังคงเป็นพันวา บุนนาค อายุ 12 ปี และออพติมิสต์หญิงเป็นของชาลิสา กฤตนัย อายุ 15 ปี ที่รั้งตำแหน่งผู้นำกลุ่มเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เช่นเดียวกับจานิสรา ซาชา โรมานิก ในรุ่นเลเซอร์เรเดียล และ ชูศิษฐ์ ปัญจมาลา ในรุ่นเลเซอร์สแตนดาร์ด ที่ยังโชว์ฟอร์มเยี่ยม เกาะที่ 1 ของตารางเหนียวแน่น ส่วนรุ่น 420 เป็นทีมของชนกชนม์ หวังสุข และ ปิยะภรณ์ เข็มแก้ว ที่แซงขึ้นมาครองอันดับ 1 ได้ในวันนี้
          นาวาโทพีระ สกุลเต็ม คณะกรรมการจากสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งเป็นนายสนามการแข่งขันเรือใบเล็ก อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส กล่าวถึงผลงานของนักกีฬาเรือใบเล็กในการแข่งขันวันนี้ว่า "สำหรับการแข่งขันวันที่ 2 แม้ลมจะเบากว่าวันแรก แต่นักกีฬาเยาวชนของไทยเรายังสามารถเล่นได้ตามแผนที่วางไว้ค่อนข้างดี โดยนักกีฬาที่น่าจับตามองในวันนี้คือ จานิสรา ซาชา โรมานิก ถือเป็นนักกีฬาดาวรุ่งในรุ่นเลเซอร์เรเดียล น้องเพิ่งเลื่อนจากออพติมิสต์ขึ้นมาเล่นเรือใบเลเซอร์เมื่อไม่นานมานี้ โดยอยู่ในช่วงแข่งขันหาประสบการณ์ตามสโมสรต่าง ๆ แต่เราก็ได้เห็นถึงพัฒนาการที่โดดเด่นและดีขึ้นเรื่อยๆ อีกคนคือ ชูศิษฐ์ ปัญจมาลา ในรุ่นเลเซอร์สแตนดาร์ด ดีกรีแชมป์โลกอันดับ 10 จากรายการ Under 21 World Championship 2018 รุ่นเลเซอร์สแตนดาร์ด ปัจจุบัน ชูศิษฐ์อยู่ในช่วงการออกแข่งขันทั่วโลกเพื่อทำ ranking โดยมีเป้าหมายจะคัดตัวแข่งโอลิมปิกปี 2020 นี้ และมีพัฒนาการก้าวกระโดดเร็วมากเช่นกัน"
          การจัดแข่งขันเรือใบเล็ก "อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส" จัดแข่งขัน 6 รุ่น ได้แก่ ออพติมิสต์ชายและหญิง, เลเซอร์ 4.7, เลเซอร์เรเดียล, เลเซอร์สแตนดาร์ด, และ 420 รวมจำนวนล่าสุด 97 ลำ โดยจัดเป็นส่วนหนึ่งของภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าในวันที่ 5-8 ธันวาคม 2561 มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมวงการกีฬาเรือใบและสนับสนุนนักกีฬาเรือใบเยาวชนในเมืองไทยให้พร้อมสำหรับการเลื่อนขึ้นไปแข่งขันเรือใบใหญ่ในอนาคต
          ในปีนี้ สมาคมสโมสรเรือใบราชวรุณฯ ยังได้ริเริ่มจัด "ภูเก็ต ดิงกี้ คลินิก" ซึ่งเป็นโปรแกรมการฝึกอบรมสำหรับนักกีฬาเรือใบเยาวชนเป็นปีแรก
          "นับเป็นเรื่องที่ดีมากที่ได้ผู้ฝึกกสอนที่ผ่านการฝึกอบอรมจากสถาบันมาตรฐานโลกมาแชร์ความรู้ ทำให้ฝึกสอนและนักกีฬาจากสโมสรต่าง ๆ ในเมืองไทยได้ความรู้ใหม่เกี่ยวกับเทคนิคการเล่นเรือใบ โดยเฉพาะกฏกติกาใหม่ที่ International jury ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในวันฝึกซ้อม ช่วยสร้างความเข้าใจแก่ผู้ฝึกสอนของแต่ละสโมสร ซึ่งแต่เดิมมีวิธีการสอนที่แตกต่างกัน ก็ได้รับการปรับจูนให้มีมาตรฐานเดียวกัน ส่วนนักกีฬาก็ได้นำความรู้มาใช้จริง ทำให้มีความมั่นใจ ซึ่งทุกคนดีใจที่มีการจัดและอยากให้มีการจัดต่อเนืองทุกๆ ปี เพื่อการพัฒนาวงการเรือใบไทยอย่างต่อเนื่อง" นาวาโทพีระกล่าว
          ผลการแข่งขันรายการอินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส วันที่ 1
          รุ่นออพติมิสต์ชาย - พันวา บุนนาค
          รุ่นออพติมิสต์หญิง - ชาลิสา กฤตนัย
          รุ่นเลเซอร์ 4.7 - พิชชาพร อึ้งปกรณ์แก้ว
          รุ่นเลเซอร์เรเดียล - จานิสรา ซาชา โรมานิก
          รุ่นเลเซอร์สแตนดาร์ด - ชูศิษฐ์ ปัญจมาลา
          รุ่น 420 – ชนกชนม์ หวังสุข / ปิยะภรณ์ เข็มแก้ว
          สามารถดูอัพเดตผลการแข่งขันทั้งประเภทเรือใบใหญ่และเรือใบเล็กในรายการภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ http://www.kingscup.com/result
          การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ครั้งที่ 32 มีเรือใบทั้งประเภทคีลโบ้ทและมัลติฮัลล์ และเรือใบเล็ก เข้าร่วมแข่งขันเป็นจำนวนรวม 168 ลำ
          การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ดำเนินการโดยคณะกรรมการจัดงานการแข่งขันเรือใบภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ภายใต้สมาคมสโมสรเรือใบราชวรุณในพระบรมราชูปถัมภ์ และการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กองทัพเรือ และจังหวัดภูเก็ต