TIGER คำราม! ไตรมาส 3/61 กำไรพุ่ง 60% ปลายปีมีลุ้นข่าวดี! ชิงเค้กโปรเจคภาครัฐ หนุนผลงานทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

          TIGER พยัคฆ์รับเหมา! 9 เดือนแรก กวาดรายได้กว่า 560 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% กำไรอู้ฟู่ 60 ล้านบาท หรือเพิ่มขั้นกว่า 36% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อานิสงส์คว้างานใหม่ต่อเนื่อง "จตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์"ส่งสัญญาณมีลุ้นข่าวดี! ชิงเค้กโปรเจคภาครัฐ และเอกชน หนุนงานในมือพุ่งกระฉูด ดันรายได้-กำไร ปี 62 โตก้าวกระโดด สมฉายาหุ้น 3 สูง 
          นายจตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TIGER) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (TEC ) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 3/61 มีรายได้รวม 207 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30 ล้านบาท หรือ 17% และมีกำไรสุทธิ 29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11 ล้านบาท หรือประมาณ 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยได้รับปัจจัยหนุนจากงานรับเหมาโครงการใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง เข้ามาอย่างต่อเนื่อง 
          ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2561 บริษัทและบริษัทย่อย 61 มีรายได้รวม 560 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121 ล้านบาท หรือ 28% และมีกำไรสุทธิ 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16 ล้านบาท หรือ 36%
          สำหรับแนวโน้มผลงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง จากงานใหม่ที่รับเข้ามา โดยในวันที่ 29 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าลงนามในหนังสือแสดงเจตนา (Letter of Intent) เพื่อรับเหมาก่อสร้างโครงการใหม่ มูลค่าประมาณ 160 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจ้างรับเหมาก่อสร้างเฉพาะโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรม งานภายนอกอาคารโรงแรมวี วิลล่า อ่าวยนต์ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งยังไม่รวมงานระบบ โดยได้เริ่มงานทันทีในเดือน พ.ย. หลังเซ็น LOI คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 10-15% ของมูลค่าโครงการ ส่วนที่เหลือจะยกยอดไปรับรู้ปี 2562 
          "ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ บริษัทฯยังคงรักษาอัตราการเติบโตของรายได้ กำไรขั้นต้น ได้ในระดับสูง เนื่องจากเราจับกลุ่มลูกค้าที่เรามีความถนัด ไม่ลงไปแข่งในเรื่องของราคา จนทำให้ความสามารถการทำกำไร เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ในฐานะหุ้น 3 สูง"
          ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TIGER) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (TEC ) กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 638 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ภายในปี 2561 จำนวน 260 ล้านบาท ส่วนที่เหลือประมาณ 378 ล้านบาท รับรู้ในปี 2562 และมีงานใหม่ที่ประมูลเข้ามาทั้งในส่วนของภาครัฐ และเอกชน คาดว่าจะประกาศเร็วๆนี้ ผลักดันให้ผลประกอบการในปีหน้า โตก้าวกระโดดตามแผนงานที่วางไว้