“บางมด” เปิดสาขาใหม่ใจกลางเมือง รุกคืบตลาดอินเตอร์ ชูจุดแข็งมาตรฐาน รพ.

           "รพ.บางมด" เปิดคลินิกต้นแบบมาตรฐานระดับโรงพยาบาล "The Lux Clinic by Bangmod" ย่านสุขุมวิท รองรับชาวต่างชาติ พร้อมชูจุดแข็งด้านการบริการ และนวัตกรรมด้านศัลยกรรมความงามที่มีเทคนิคเฉพาะด้าน 
          นพ.สุรสิทธิ์ อัศดามงคล ประธานกรรมการบริหาร รพ.บางมด เปิดเผยถึงการเปิดคลินิกต้นแบบ The Lux Clinic by Bangmod ว่า "ช่วงปลายปีที่ผ่านมา เราได้มีการดำเนินการขยายสาขาของศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ที่มีชื่อว่า "The Lux Clinic by Bangmod" ออกไปสู่ย่านพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ได้แก่ ย่านสุขุมวิท เพื่อรองรับฐานคนไข้ชาวต่างชาติที่มาจากต่างประเทศโดยตรง และชาวต่างชาติที่พักอาศัยในประเทศไทย รวมทั้ง กลุ่มคนเมือง โดยจากสถิติของผู้เข้าใช้บริการในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราได้รับการยอมรับจากชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะชาวต่างชาติจากสหรัฐอเมริกา, ฝั่งยุโรป, เอเชีย ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากฝีมือและเทคนิคการผ่าตัดของศัลยแพทย์ไทย ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้ง คนไข้มีความมั่นใจในความปลอดภัย รวมทั้ง ค่าใช้จ่ายไม่แพง ซึ่งภายหลังการเปิดให้บริการเพียงระยะ 1 เดือนที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มสุภาพสตรีชาวญี่ปุ่น 
          สำหรับ "The Lux Clinic by Bangmod" มีบริการครอบคลุมทั้งการศัลยกรรมและการดูแลผิวหนังเช่นเดียวกับศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด โดยถูกวางคอนเซ็ปต์ให้เป็น "คลินิกมาตรฐานระดับโรงพยาบาล" คือ การบริการที่มีความสะดวก รวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน แต่มีมาตรฐานและความปลอดภัย ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญประสบการณ์ รวมถึง ทีมบุคลากรคอยให้ความช่วยเหลือ แนะนำคนไข้ ทั้งก่อนและหลังเข้ารับบริการ 
          ด้าน นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล ผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด กล่าวว่า "นโยบายศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) ที่รัฐบาลประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2546 ส่งผลให้การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์หรือเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) เติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมดได้รับการยอมรับในระดับสากลว่า เป็นหนึ่งในจุดหมายของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ซึ่งเรามีข้อได้เปรียบด้านคุณภาพการให้บริการ และประสิทธิภาพการรักษา เช่น การศัลยกรรมดึงหน้าเทคนิคใหม่ที่มีชื่อว่า "Modern Facelift 2019" ซึ่งเป็นเทคนิคใหม่ที่พัฒนาขึ้นมา โดยคิดค้นและศึกษาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียของผลลัพธ์ในการผ่าตัดแต่ละรูปแบบ ทำให้คนไข้ในแต่ละช่วงวัย สามารถแยกส่วนทำได้ในช่วงที่มีปัญหา โดยแพทย์จะมีการวัดความหย่อนคล้อย และปรับการผ่าตัดตามระดับ ด้วยวิธีการฉีดยาชา (Local Anesthetics) ทำให้ระยะเวลาการผ่าตัดและพักฟื้นน้อยลง ความธรรมชาติและความคงทนมากขึ้น เพราะทำในชั้น SMAS" 
          ปัจจุบันภาพรวมการแข่งขันของศัลยกรรมความงามมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งจำนวนของคลินิกที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น การเข้ามาของคลินิกศัลยกรรมจากต่างประเทศในลักษณะการร่วมทุน รวมถึง การมุ่งหวังผลประโยชน์เชิงพาณิชย์มากเกินไป ทำให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน 
          "สิ่งสำคัญที่จะทำให้วงการศัลยกรรมความงามของประเทศไทยพัฒนาไปได้ และพัฒนาไปในทางที่ถูกต้อง คือ การเปลี่ยนมุมมอง จาก "ธุรกิจ" สู่ "การรักษาทางการแพทย์" เพราะปัญหาในปัจจุบันมีการแข่งขัน และมุ่งเล็งถึงผลกำไรในเชิงธุรกิจมากเกินไป เช่น การรีวิวด้วยรูปภาพสวยๆ, โฆษณาชวนเชื่อโดยใช้บุคคลมีชื่อเสียง, การไม่ได้บอกข้อมูลเชิงการแพทย์อย่างแท้จริง, การผ่าตัดโดยไม่ได้พบแพทย์ก่อน, การแนะนำหรือเชีย ร์เพื่อให้ผ่าตัดเยอะๆ เกินความจำเป็น รวมถึง การเกิดเอเจนซี่ และการแข่งขันทางการตลาด สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า เรากำลังเดินมาผิดทาง เพราะเรามองในเชิงธุรกิจเป็นหลัก 
          หากเราเปลี่ยนมุมมองว่า การทำศัลยกรรม คือ "การรักษาทางการแพทย์" หมายความว่า เราต้องให้ข้อมูลตามความเป็นจริง, ตรวจวิเคราะห์ตามหลักการแพทย์, บอกทั้งข้อดี - ข้อเสีย และโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนทั้งหมดกับคนไข้ นี่ถือเป็นการรักษาทางการแพทย์อย่างหนึ่ง ซึ่งต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นสำคัญ แพทย์ต้องมีจริยธรรมมากพอ ให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา แนะนำการทำศัลยกรรมอย่างพอดี ถูกหลักการแพทย์ ตรงปัญหา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เกิดความปลอดภัย และคนไข้ได้รับผลประโยชน์มากขึ้นอย่างแท้จริง
          ส่วนแนวทางการพัฒนาเพื่อเปลี่ยนจากการพัฒนาเชิงธุรกิจ โฆษณา การตลาด มาเป็นการพัฒนาเชิงการแพทย์นั้น ควรพัฒนาแพทย์ให้มีความสามารถมากขึ้น ให้จบเฉพาะทางมากขึ้น หรือพัฒนาเทคนิคการผ่าตัด และมาตรฐานทางการแพทย์ให้สูงขึ้น รวมถึง มีการจัดประชุมวิชาการมากขึ้นด้วย" นพ.ธนัญชัย กล่าว
          อนึ่ง ในปีที่ผ่านมา ศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นราว 15% เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื่องจากการเข้ามาใช้บริการมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มชาวต่างชาติที่มีสัดส่วน 40% ใกล้เคียงกับกลุ่มชาวไทยที่มีการใช้บริการอยู่ที่ 60% ส่วนใหญ่จะเดินทางมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา, ประเทศในทวีปยุโรป อาทิ ฝรั่งเศส, เยอรมัน, สวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้ง ประเทศในเอเชียด้วยกัน อาทิ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, จีน เป็นต้น สำหรับในปี 2562 ทางศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ได้วางงบการลงทุนไว้ประมาณ 40 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบการลงทุนเปิดคลินิก "The Lux Clinic by Bangmod" ประมาณ 20 ล้านบาท งบทางการตลาดอีกประมาณ 20 ล้านบาท โดยคาดว่าจบสิ้นปี 2562 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ประมาณ 20% เนื่องจากการมีสาขาที่เพิ่มขึ้น และจำนวนการเข้ามาของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ