ทีมอลล์ โกลบอล เผยโครงการใหม่ล่าสุดจากอาลีบาบาหนุนการนำเข้าของจีน

          ทีมอลล์ โกลบอล เปิดตัวโครงการจากอาลีบาบา นำสินค้านานาชาติมูลค่ากว่า 200 แสนล้านดอลล่า เข้ามาขายในตลาดจีน ในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจทุกขนาดให้สามารถเข้าสู่ตลาดจีน
          โครงการดังกล่าว ได้แก่ โครงการจัดซื้อการนำเข้าส่วนกลาง (Centralized Import Procurement – CIP) และ บริการคลังสินค้าต่างประเทศโดยทีมอลล์ (Tmall Overseas Fulfillment – TOF) ซึ่งเป็นโซลูชั่นส์การนำเข้าสินค้า ให้บริการโดยทีมอลล์ โกลบอล เพื่อช่วยแบรนด์นานาชาติให้สามารถเจาะตลาดในประเทศจีนได้อย่างรวดเร็วและสร้างโอกาสให้กับสินค้าคุณภาพที่กำลังได้รับความต้องการอย่างสูง
          ในฐานะแพลตฟอร์มข้ามชาติขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ทีมอลล์ โกลบอลไม่เพียงช่วยสร้างร้านแฟลกชิปสโตร์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้กับแบรนด์ต่างๆ แต่ยังช่วยส่งเสริมการนำเข้าโดยตรง โดยนำเข้าสินค้านานาชาติจากทั้งบริษัทขนาดเล็กและใหญ่มาทำตลาดในจีน ที่สำคัญ เป็นการเพิ่มทางเลือกของสินค้านำเข้าที่หลากหลายให้กับผู้บริโภคชาวจีน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในโครงการ ภายใต้กลยุทธ์ New Retail ของอาลีบาบา
          "โครงการใหม่ล่าสุดจากทีมอลล์ โกลบอล ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอาลีบาบาอีโคซิสเท็มและเป็นประโยชน์ต่อพันธมิตรทางธุรกิจของอาลีบาบานี้ นับเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยทำให้พันธสัญญาของอาลีบาบา ในการนำเข้าสินค้าจากนานาประเทศมูลค่ารวมสองแสนล้านเหรียญสหรัฐมาสู่ตลาดจีนผ่านภายในระยะเวลาห้าปีสามารถเกิดขึ้นตามที่ตั้งเป้าหมายไว้" นายอัลวิน หลิว ผู้จัดการทั่วไปของทีมอลล์ อิมปอร์ต-เอ็กซ์ปอร์ต กล่าวในงานการประชุมร้านค้าประจำปีของทีมอลล์ โกลบอล "Tmall Global Annual Merchant Summit"
          ทั้งนี้ สืบเนื่องจากงาน China International Import Expo เดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา อาลีบาบาประกาศจะนำสินค้านานาชาติมูลค่ากว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ มาสู่ตลาดจีนและขายผ่านแพลทฟอร์มของอาลีบาบา ในเวลาอีก 5 ปีข้างหน้า
          เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ อาลีบาบาจึงได้เปิดตัวโครงการจัดซื้อการนำเข้าส่วนกลาง (CIP) โดยจัดตั้งศูนย์จัดซื้อ 6 แห่ง ทั่วโลก ได้แก่ เอเชีย แปซิฟิก ยุโรป และอเมริกาเหนือ ทำหน้าที่คัดสรรสินค้านำเข้าต่างๆ เพื่อนำมากระจายในอีโคซิสเท็มของอาลีบา ทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ อาทิ Freshippo (เดิมชื่อ เหอหม่า) ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน รวมไปถึงทีมอลล์ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าอินไทม์ (Intime) CIP นับเป็น ช่องทางที่รวดเร็วแต่มีความเสี่ยงต่ำสำหรับแบรนด์ต่างประเทศที่ต้องการทำการตลาดในจีน และเข้าถึงผู้บริโภค กว่า 700 ล้านคน บนแพลทฟอร์มอาลีบาบา 
          ส่วนบริการคลังสินค้าต่างประเทศโดยทีมอลล์ (Tmall Overseas Fulfillment: TOF) คือ โซลูชั่นการฝากขายสินค้า ที่ให้แบรนด์ทดลองนำสินค้าเริ่มจากจำนวนน้อย ๆ ไปฝากขายที่ TOF Center เพื่อนำไปจำหน่ายบนแพลตฟอร์มทีมอลล์ โกลบอลต่อไป วิธีการดังกล่าวทำให้เจ้าของธุรกิจได้ทดลองตลาดและปรับสินค้าของตนก่อนที่จะตัดสินใจเข้าสู่ตลาดจีนเต็มตัว ปัจจุบัน TOF Center มีเปิดให้บริการแล้วที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา โดยมีแผนที่จะขยายไปยุโรปในปีนี้
          นอกเหนือจากโครงการข้างต้นสองโครงการ ทีมอลล์ โกลบอล ยังเตรียมเปิดตัวซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์เพื่อนำเข้าสินค้า FMCG เข้าสู่ตลาดจีนมากขึ้น เนื่องจากความต้องการสินค้าใหม่ ๆ และคุณภาพดีขึ้น ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนโครงการข้างต้น ไช่เหนียว ซึ่งเป็นเครือข่ายดำเนินธุรกิจด้านสมาร์ทโลจิสติกส์ของอาลีบาบายังเดินหน้าขยายเครือข่าย คลังสินค้าทัณฑ์บน (bonded warehouse) ในประเทศจีน โดยมุ่งที่จะขยายเพิ่มขึ้น 3 เท่า ให้เป็น 3 ล้านตารางเมตร ภายในระยะเวลา 3 ปี
          "หลายปีที่ผ่านมา ทีมอลล์ โกลบอล ได้เพิ่มบริการที่ทันสมัยและเพิ่มมูลค่าเพื่อช่วยให้แบรนด์จากต่างประเทศประสบความสำเร็จในตลาดจีน ไม่ว่าจะเป็นการนำธุรกิจเหล่านั้นมาเชื่อมต่อกับอีโคซิสเท็มของอาลีบาบา ข้อมูลผู้บริโภคเชิงลึกจากอีโคซิสเท็มทำให้คู่ค้าของทีมอลล์ โกลบอล สามารถเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคและกลุ่มเป้าหมายของตนได้ แม้ยังไม่ได้ตั้งธุรกิจในจีน โครงการที่ช่วยในการเปิดตลาดแรกเข้าและการขยายตลาดภายในประเทศ นับเป็นจุดต่างสำคัญและช่วยสร้างข้อได้เปรียบให้กับแบรนด์จากต่างประเทศ" นายหลิวกล่าวเสริม 
          ข้อมูลของทีมอลล์ โกลบอล ในปี 2561 แสดงให้เห็นถึงการเข้ามาใช้บริการในแพลตฟอร์มของกลุ่มลูกค้าจีน ที่มีความแตกต่างทางด้านอายุ ถิ่นที่อยู่ และความสนใจในประเภทสินค้า ผู้ที่เกิดหลังปี 2543 หรือ เจเนอเรชั่น Z เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด ในขณะภูมิภาคที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจต่ำ กลับมีจำนวนผู้ซื้อมากขึ้น กลุ่มสินค้าที่เป็นที่นิยม 3 ประเภท ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ป้องกันการหลุดร่วงของเส้นผม กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมความงาม อาทิ เครื่องดื่มคอลลาเจน และ รองเท้าแฟชั่น 
          เจเนอเรชั่น Z ยังมีแนวโน้มที่จะมีส่วนในการกระตุ้นความต้องการสินค้าที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงและเครื่องมือเพื่อความงาม โดยจำนวนแบรนด์ที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงได้มีเพิ่มขึ้นเท่าตัว และยอดขายของเครื่องมือเพื่อความงานเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า ในปี 2561 เมื่อเทียบกับปี 2560 
          ด้วยตระหนักถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีอายุน้อย ที่ให้ความสำคัญกับคอนเท้นต์ ทีมอลล์ โกลบอล จึงนำเสนอเครื่องมือใหม่ๆ ในการในการนำเสนอคอนเทนต์บอกเล่าเรื่องราวของแต่ละแบรนด์เพื่อเพิ่มการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น การไลฟ์สดบนเถาป่า ทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้โดยตรงผ่าน touchpoint ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บริการไลฟ์สด วิดีโอ testimonial โดย influencer และ KOL กลุ่มต่างๆ
          แบรนด์สินค้าไทยที่ประสบความสำเร็จในแพลตฟอร์ม ทีมอลล์ โกลบอล ได้แก่ Ninest แบรนด์เครื่องดื่มรังนก ซึ่งเปิดตัวแฟลกชิปสโตร์ บน ทีมอลล์ โกลบอล ในเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา หลังจากใช้กลยุทธ์ทางการตลาดและแคมเปญสนับสนุนด้านการขาย อาทิ การสร้างเรื่องราวให้กับแบรนด์ และ Testimonial การไลฟ์สดโดย บล็อกเกอร์ชาวจีน ทำให้ยอดขายในเดือนกันยายน สูงถึง 500,000 หยวน หรือราว 2 ล้านกว่าบาท และขึ้นสูงถึง 900,000 หยวน หรือ 3 ล้านกว่าบาท ปัจจุบัน ยอดขายของแบรนด์ Ninest เพิ่มสูงขึ้นกว่า 10 เท่า
          Analysys บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลของจีน เผยว่า ทีมอลล์ โกลบอลเป็นจัดเป็นแพลตฟอร์มข้ามชาติขนาดใหญ่ที่สุดในจีน ซึ่งมีแบรนด์ต่างประเทศจัดจำหน่ายสินค้ากว่า 4,000 ประเภทสินค้า จาก 77 ประเทศและภูมิภาค

          เกี่ยวกับทีมอลล์ โกลบอล
          เปิดตัวครั้งแรกในปี 2557 ทีมอลล์ โกลบอล (www.tmall.hk) เป็นธุรกิจภายใต้แพลตฟอร์มทีมอลล์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคจีนต่อสินค้าและแบรนด์นานาชาติที่มีเพิ่มสูงขึ้น นับเป็นแพลตฟอร์มตัวแรกสำหรับแบรนด์ต่างประเทศและธุรกิจการค้าปลีกในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนสามารถสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์และเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคเพื่อวางกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องตั้งบริษัทในประเทศจีน ข้อมูลจาก Analysys บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลของจีนเปิดเผยว่าทีมอลล์ โกลบอลกลายเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้านธุรกิจการนำเข้าอันดับหนึ่งของประเทศจีน เมื่อพิจารณาจากมูลค่าการซื้อขาย ณ ปีงบประมาณ 2561