มูลนิธิมหาอุปรากรกรุงเทพเปิดตัว “เบโธเฟน X” อย่างเป็นทางการ

          ในวาระครบ 250 ปีเบโธเฟน โดยวันที่ 17 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของเบโธเฟนถือเป็นวันเริ่มต้นกิจกรรมแห่งการเฉลิมฉลองเบโธเฟนทั่วโลก ทั้งนี้ในกรุงบอนน์ ประเทศเยอรมนี บ้านเกิดของเบโธเฟนเองจะมีการแพร่ภาพกิจกรรมดังกล่าวทางโทรทัศน์อย่างต่อเนื่อง
          สำหรับในกรุงเทพฯ นั้น มูลนิธิมหาอุปรากรกรุงเทพได้ร่วมเฉลิมฉลองในวาระดังกล่าวเช่นกัน โดยได้จัด "โครงการเบโธเฟน X" ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นำเสนอโดยเยาวชนผู้เคยสัมผัสมรดกด้านคีตศิลป์อันเป็นอมตะของปรมาจารย์คีตกวีท่านนี้ ความโดดเด่นของโครงการเบโธเฟน X ของมูลนิธิจะอยู่ที่ความร่วมมือกันของออร์เคสตร้าเยาวชนไทยถึง 4 วง ได้แก่ สยาม ซินโฟนิเอตต้า วงดุริยางค์เยาวชนไทย อิมมานูแอล ออร์เคสตร้า และอิสานดุริยางค์ ซึ่งจะบรรเลงซิมโฟนีทุกบทของเบโธเฟนตลอดระยะเวลา 1 ปี โดยเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 นี้เป็นต้นไปจนถึงเดือนธันวาคม 2563
          ทั้งนี้โครงการเบโธเฟน X ในไทยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยการบรรเลงดนตรีจากท่อนสุดท้ายของซิมโฟนีเบอร์ 9 หรือในชื่อเล่นว่า "Ode to Joy"ของเบโธเฟน ซึ่งจัดแสดงในรูปแบบ 'แฟลชม็อบ' ที่ไม่เหมือนใคร ภายใต้ชื่อ "บิ๊กแบง เบโธเฟน X" ในวันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2562 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พร้อมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการเบโธเฟน X อย่างเป็นทางการ
          นายสมเถา สุจริตกุล ประธานมูลนิธิมหาอุปรากรกรุงเทพและผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของโอเปร่าสยาม อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า "แฟลชม็อบเริ่มด้วยจุดเดียวในความว่างเปล่า สิ่งอื่น ๆ จะเข้ามาสมทบจนจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างล้นหลาม เราได้ความคิดนี้จากโครงสร้างซิมโฟนีหมายเลข 9 ของเบโธเฟน ซึ่งเริ่มด้วยเชลโลและเบสส์จากจุดหนึ่งจุดใดของหอแสดง นักดนตรีอื่น ๆ เข้ามาร่วมจากมุมอื่น ๆ และในช่วงท้ายซึ่งมโหฬารที่สุด นักร้องประสานเสียงจะขับร้องจากเฉลียงชั้นบนสุด แสดงถึงเมล็ดพืชแห่งอัจฉริยภาพของมหาคีตกวีเบโธเฟน ซึ่งเจริญเติบโตตามกาลเวลาจนท่วมท้นทั้งโลก"สมเถาอธิบายต่อไปว่า "มันคือการเริ่มต้นของจุดเล็ก ๆ ซึ่งขยายตัวเป็นดนตรี 'บิ๊กแบง' แผ่ไพศาลจนเต็มโลก"
          การบรรเลงร่วมแบบอลังการใน "บิ๊กแบง เบโธเฟน X" ครั้งนี้เป็นความร่วมมือของวงดุริยางค์เยาวชนถึง 4 วง คือ สยาม ซินโฟนิเอตต้า วงดุริยางค์เยาวชนไทย อิมมานูเอล ออร์เคสตร้าและอิสานดุริยางค์
          สยาม ซินโฟนิเอตต้าเป็นออร์เคสตร้าเยาวชนระดับบุกเบิกที่ก่อตั้งโดยสมเถา สุจริตกุล โดยใช้วิธีการสอนแบบสมเถา ซึ่งเป็นนวัตกรรมการสอนดนตรีที่คิดค้นขึ้นใหม่ ทั้งนี้สยาม ซินโฟนิเอตต้าเป็นวงดุริยางค์เยาวชนไทยที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันบนเวทีโลกมากมาย รวมทั้งคาร์เนกี ฮอลล์ ในมหานครนิวยอร์กถึง 3 ครั้ง นอกจากนั้นยังได้เดินทางบรรเลงดนตรีทั่วยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง อีกทั้งได้ชื่อว่ามีความสามารถในการบรรเลงคีตนิพนธ์ที่ยากยิ่ง อาทิ ซิมโฟนีของมาห์เล่อร์ สตราวินสกี้ และบาร์ทอค
          วงดุริยางค์เยาวชนไทยเป็นออร์เคสตร้าเยาวชนในสังกัดกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ภายใต้การอำนวยการของอัครวัฒน์ ศรีณรงค์ ทายาทคนหนึ่งของครอบครัวนักดนตรีชั้นนำแห่งวงการคลาสสิก วงดุริยางค์เยาวชนไทยเป็นออร์เคสตร้าเยาวชนไทยวงที่สองที่ได้รับรางวัล Summa Cum Laude จากการแข่งขันมูสิคเฟราย (Musikverein) ณ กรุงเวียนนาหลังจากที่สยาม ซินโฟนิเอตต้าได้รับรางวัลนี้เป็นวงแรก
          อิมมานูเอลเป็นออร์เคสตร้าเยาวชนของมูลนิธิดนตรีเพื่อชีวิตที่น่าติดตาม และอิสานดุริยางค์ ซึ่งเพิ่งก่อตั้งเมื่อปีที่แล้วที่จังหวัดนครราชสีมา
          สมเถา สุจริตกุล อัครวัฒน์ ศรีณรงค์ และทฤษฎี ณ พัทลุง 3 วาทยกรชื่อดังของไทย ร่วมกับวาทยกรชาวเวลส์ โจนาธาน แมนน์ แห่งอิมมานูเอล ออร์เคสตร้า และวรปราชญ์ วงศ์สถาพรพัฒน์ วาทยกรหนุ่มที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาสด ๆ ร้อน ๆ จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ จะมาร่วมกันนำเสนอกิจกรรมครั้งสำคัญนี้