สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน พลิกกลยุทธ์ จัดงานแฟร์ “Home Builder & Materials Expo 2020” ทั้งแบบออฟไลน์ และออนไลน์

นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 คาดภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านน่าจะหดตัวไม่น้อยกว่า 20-30% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 ทำให้หยุดการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ทางเศรษฐกิจ และจากมาตรการปิดเมือง (Lockdown) ตามการบังคับใช้ พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ล้วนส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจ สังคม ภาคธุรกิจต่างๆ ซึ่งก็รวมถึงธุรกิจรับสร้างบ้านโดยตลาดที่หดตัวนั้นเกิดขึ้นในทุก Segment ของระดับราคาบ้าน ดังนี้

• กลุ่มตลาดระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ตลาดหดตัว 30%
• กลุ่มตลาดระดับราคาตั้งแต่ 5-10 ล้านบาท ตลาดหดตัว 20%
• กลุ่มตลาดระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ตลาดหดตัว10%

ทั้งนี้ สาเหตุที่ตลาดระดับกลาง-ล่าง มีระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท หดตัวมากสุด เพราะส่วนใหญ่กลุ่มผู้บริโภคที่ปลูกสร้างบ้านในระดับราคาดังกล่าวจะพึ่งเงินกู้จากธนาคาร แต่พอเกิดภาวะความเสี่ยงต่างๆขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายได้ ความมั่นคงในอาชีพ ทำให้ธนาคารเพิ่มความเข้มงวด และระมัดระวังของธนาคารที่ปล่อยกู้มากยิ่งขึ้น จะต่างกับกลุ่มผู้บริโภคที่ที่ปลูกสร้างบ้านราคาแพง ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มนี้ค่อนข้างจะมีฐานะดีในระดับหนึ่ง จึงมีปัญหาในการขอสินเชื่อจากธนาคารค่อนข้างน้อย แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดรับสร้างบ้านน่าจะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีตามการคาดการณ์การฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเศรษฐกิจ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการภาครัฐและมาตรการเปิดเมืองบางส่วนจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม ขอเพียงอย่าให้การระบาดของ เชื้อไวรัส Covid-19 กลับมาใหม่ เพราะหากมี การกลับมาระบาดอาจทำให้เศรษฐกิจโดยรวมหดตัวเพิ่มได้ โดยข้อมูลของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2563 จะปรับตัวลดลงในช่วง 5 - 6%

“ช่วงต้นปีสมาคมฯ เราค่อนข้างมองในแง่บวกว่าอย่างน้อยตลาดน่าจะเติบโตได้มีมูลค่า 1.2 - 1.3 หมื่นล้านบาท โดยอ้างอิงจากยอดขายของสมาชิกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา แต่พอเกิดสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 เข้ามา และมีผลกระทบเป็นวงกว้างมาก คาดทั้งปีตลาดรับสร้างบ้านน่าจะหดตัว แต่จะมากแค่ไหนตอนนี้ยังตอบชัดเจนไม่ได้” นายวรวุฒิ กล่าว

พร้อมกันนี้นายวรวุฒิ ยังกล่าวด้วยว่า สาเหตุที่มองว่าผู้บริโภคยังต้องการที่จะปลูกสร้างบ้านบนที่ดิน ซึ่งจะทำให้ตลาดรับสร้างบ้านจะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 เพราะจากข้อมูลที่สะท้อนผ่านการเข้าเยี่ยมชมงานรับสร้างบ้านออนไลน์ 2020 ระหว่างวันที่ 20-31 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็น Online Exhibition ครั้งแรก (เดิมคืองานรับสร้างบ้าน Focus 2020) ของสมาคมฯ ที่จัดขึ้นและได้รับการตอบรับที่ดีภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ค่อนข้างรุนแรงในช่วงนั้น โดยตลอด 12 วันของการจัดงานรับสร้างบ้านออนไลน์ มีผู้จองสร้างบ้านผ่านทางช่องทางออนไลน์ของการจัดงานในครั้งนี้เป็นมูลค่า 125 ล้านบาท และมีผู้ที่สนใจจะสร้างบ้านอีก ยอดมูลค่า การก่อสร้างรวม 600 ล้านบาท จากผู้บริโภคที่สนใจสร้างจริง 100 ราย โดยผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านที่ร่วมกิจกรรมการจัดงานรับสร้างบ้านออนไลน์ในครั้งนี้ จำนวน 14 บริษัท (ตามปกติงานรับสร้างบ้าน Focus จะมีสมาชิกร่วมกว่า 30-40 ราย) และการเข้าเยี่ยมชมงานรับสร้างบ้านออนไลน์ Feedback ที่เกิดขึ้นมีมากกว่า 575,000 ครั้ง

จากยอดขายงานรับสร้างบ้านออนไลน์ตลอด 12 วันของการจัดงาน แบ่งตามระดับราคาบ้านที่ปลูกสร้าง ดังนี้

• บ้านระดับราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 46.67%
• บ้านระดับราคาไม่เกิน 2.51 - 5 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 13.33%
• บ้านระดับราคาไม่เกิน 5.01 – 10 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 13.33%
• บ้านระดับราคาไม่เกิน 10.01 – 20 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 20.00%
• บ้านระดับราคา 20.01 ล้านบาท ขึ้นไป คิดเป็นสัดส่วน 6.67 %

เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดและให้เข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านจึงได้ปรับกลยุทธ์การจัดงานใหม่ตามสถานการณ์ตามสถานการณ์ ที่ล่าสุด ได้เตรียมการจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Expo 2020 ทั้งแบบออฟไลน์ และออนไลน์ เพื่อตอบรับกระแสของกลุ่มลูกค้าทั้ง 2 ช่องทาง โดยกำหนดจัดงาน Online Exhibition ขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 ขณะที่การจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Expo 2020 แบบออฟไลน์ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคม 2563 ที่ศูนย์การแสดงสินค้าเมืองทองธานี

• ข่าวสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน
• ข่าวรับสร้างบ้านและวัสดุ
• ข่าวสมาคมธุรกิจรับสร้าง
• ข่าวธุรกิจรับสร้างบ้าน
• ข่าววรวุฒิ กาญจนกูล