บริษัททุ่มลงทุนเพื่อสนับสนุนการเติบโตของลูกค้าและอนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตสารทำความเย็นที่ก่อภาวะโลกร้อนต่ำถึง 40%
บริษัท เดอะ เคมัวร์ (The Chemours Company) (NYSE: CC) บริษัทเคมีภัณฑ์ระดับโลกซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีไทเทเนียม โซลูชันความร้อนและโซลูชันเฉพาะทาง และวัสดุสมรรถนะสูง ประกาศว่า บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตสารทำความเย็น Chemours Opteon(TM) YF (HFO-1234yf) สำหรับลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้สารทำความเย็นที่มีค่าดัชนีในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อนต่ำกว่า ปัจจุบัน สารทำความเย็น Opteon(TM) YF และสารทำความเย็นผสม YF ถูกนำไปใช้ในรถยนต์หลายล้านคันและในร้านค้าปลีกหลายพันแห่งทั่วโลก ด้วยค่าดัชนีในการทำลายชั้นโอโซน (ODP) และค่าดัชนีในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ต่ำกว่าสารทำความเย็นแบบเดิม ๆ อย่างมีนัยสำคัญ
เคมัวร์มองว่าโครงการเพิ่มกำลังการผลิตที่ใช้เงินลงทุน 80 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการลงทุนเพื่อการเติบโตครั้งสำคัญ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความรับผิดชอบขององค์กร ด้วยการมอบผลตอบแทนในระดับสูงและการบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร ทั้งนี้ เมื่อครั้งที่เคมัวร์เปิดโรงงานในเดือนมิถุนายน 2562 บริษัทสามารถเพิ่มกำลังการผลิตสารทำความเย็น Opteon(TM) YF ได้มากกว่าสามเท่า และก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตสารทำความเย็น HFO-1234yf ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และจะครองสถานะดังกล่าวต่อไปด้วยโครงการดังกล่าว โดยการลงทุนขยายกำลังการผลิตในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานได้ถึง 40% โดยประมาณ
"การเพิ่มกำลังการผลิตในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของเคมัวร์ที่มีต่อลูกค้าของเรา ชุมชนที่เราอาศัยและทำงานอยู่ รวมถึงสุขภาวะและความยั่งยืนของโลกใบนี้" คุณอลิชา เบลเลซซา (Alisha Bellezza) ประธานฝ่ายโซลูชันความร้อนและโซลูชันเฉพาะทางของเคมัวร์ กล่าวว่า "สารทำความเย็น Opteon(TM) YF คือตัวพลิกเกมที่จะช่วยให้โครงการด้านความยั่งยืนทั่วโลกมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เมื่อลูกค้ามีความต้องการมากขึ้น เราภูมิใจที่ได้ลงทุนเพื่อช่วยเหลือลูกค้าของเราให้สามารถปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่มีความซับซ้อน พร้อมกับสนับสนุนผลการดำเนินงานของลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและพร้อมใช้งาน"
สารทำความเย็นที่ผลิตในเมืองอิงเกิลไซด์ รัฐเท็กซัส ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองคอร์ปัสคริสตีราว 20 นาทีนั้น จะถูกส่งออกให้กับฐานลูกค้าทั่วโลกซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สำหรับตลาดระบบปรับอากาศในยานพาหนะนั้น คาดว่าจำนวนยานพาหนะตามท้องถนนในสหรัฐอเมริกาที่ใช้สารทำความเย็น HFO-1234yf จะมีมากกว่า 80 ล้านคัน ทั้งนี้ นับตั้งแต่เปิดโรงงานแห่งนี้ บริษัทผู้ผลิตหลายแห่งได้เลือกผลิตภัณฑ์ Opteon(TM) เพื่อนำไปใช้กับระบบปรับอากาศ HVAC ในที่อยู่อาศัยและในเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ ภายในปี 2568 เคมัวร์ประมาณการว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่มีค่าดัชนีในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อนต่ำจะช่วยกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าได้ประมาณ 325 ล้านตันทั่วโลก
เกี่ยวกับบริษัท เดอะ เคมัวร์
บริษัท เดอะ เคมัวร์ (The Chemours Company) (NYSE: CC) คือผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีไทเทเนียม โซลูชันความร้อนและโซลูชันเฉพาะทาง และวัสดุสมรรถนะสูง โดยนำเสนอโซลูชันให้แก่ลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวกำหนดทิศทางตลาด ความเชี่ยวชาญด้านการใช้งาน และนวัตกรรมเคมีที่ก้าวล้ำ เราส่งมอบโซลูชันที่เฉพาะเจาะจงพร้อมด้วยผลิตภัณฑ์เคมีชนิดพิเศษและผลิตภัณฑ์เคมีเชิงอุตสาหกรรมสำหรับตลาดต่าง ๆ เช่น การเคลือบ งานพลาสติก การทำความเย็นและการปรับอากาศ การขนส่ง เซมิคอนดักเตอร์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค อุตสาหกรรมทั่วไป รวมถึงน้ำมันและก๊าซ โดยผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของเราประกอบด้วยแบรนด์ชื่อดัง เช่น Ti-Pure(TM), Opteon(TM), Freon(TM), Teflon(TM), Viton(TM), Nafion(TM) และ Krytox(TM) บริษัทมีพนักงานราว 6,400 คน และมีโรงงานผลิต 29 แห่งที่พร้อมให้บริการลูกค้าราว 3,200 ราย ในกว่า 120 ประเทศ ทั้งนี้ เคมัวร์มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ และจดทะเบียนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ภายใต้สัญลักษณ์ CC
Company invests to support customers' growth and a sustainable future by increasing ultra low-GWP refrigerant production by approx. 40% The Chemours Company ("Chemours") (NYSE: CC), a global chemistry company with leading market positions in Titanium Technologies, Thermal & Specialized Solutions, and Advanced Performance Materials, today announced it will be expanding its Chemours Opteon(TM) YF (HFO-1234yf) capacity to help meet customer needs as they continue transitioning to lower GWP