- สืบเนื่องจากการที่กองทุนการลงทุนที่บริหารโดยธุรกิจในเครืออะพอลโล โกลบอล แมเนจเมนต์ หรือเรียกรวมกันว่า "กองทุนอะพอลโล" ได้เข้าซื้อกิจการของอินจีนิโก้ไป ทางอินจีนิโก้ก็มีความยินดีในการประกาศแต่งตั้งสมาชิกรายใหม่ในคณะกรรมการกำกับดูแล
- ภายใต้การนำของคุณแมททิว เดสโต รวมถึงการสนับสนุนของคณะกรรมการกำกับดูแลและผู้ถือหุ้นรายใหม่ อินจีนิโก้ก็พร้อมพลิกโฉมธุรกิจให้เป็นผลสำเร็จ
สืบเนื่องจากการที่กองทุนอะพอลโล (Apollo Funds) ได้เข้าซื้อกิจการไปเป็นผลสำเร็จ อินจีนิโก้ (Ingenico) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันรับการชำระเงิน ประกาศเริ่มดำเนินธุรกิจในฐานะบริษัทอิสระ โดยได้ตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลขึ้นมาใหม่ เพื่อช่วยให้ทีมบริหารขับเคลื่อนกลยุทธ์และพลิกโฉมธุรกิจได้ตามเป้าหมาย
การมีกองทุนอะพอลโลเป็นเจ้าของนับเป็นยุคใหม่สำหรับอินจีนิโก้ในฐานะบริษัทอิสระ ด้วยทีมผู้นำที่มีความแข็งแกร่งและกลยุทธ์ชัดเจน เพื่อมุ่งนำเสนอบริการชั้นยอดให้ลูกค้าของเรา อินจีนิโก้หวังที่จะเร่งการพลิกโฉมธุรกิจให้เป็นผู้ให้บริการอีโคซิสเต็มการชำระเงิน โดยใช้ประโยชน์จากฐานผู้ใช้งานจริงทั่วโลกที่มีจำนวนมากที่สุด รวมถึงขีดความสามารถในการวิจัยและพัฒนา และผู้มีพรสวรรค์ เพื่อคิดค้นผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ
อินจีนิโก้ยังมีแผนที่จะปรับปรุงบริการเดิมให้ดีขึ้น และเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่การผนวกรวมบริการซอฟต์แวร์กับบริการบนคลาวด์ให้ดีขึ้น โดยอาศัยแพลตฟอร์มที่ทำงานกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์อย่าง AXIUM(TM) รวมถึงบริการเทอร์มินัล (TaaS) และบริการแพลตฟอร์มชำระเงิน PPaaS(TM) กลยุทธ์ดังกล่าวออกแบบมาเพื่อช่วยให้พัฒนาธุรกิจได้ในระยะยาว และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พนักงาน และผู้ถือหุ้นของอินจีนิโก้ได้ดีที่สุด
คุณแมททิว เดสโต (Matthieu Destot) จะรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการตามกลยุทธ์ของอินจีนิโก้ต่อไปในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารและสมาชิกคณะกรรมการ โดยคุณแมททิวจะได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการกำกับดูแลชุดใหม่ที่ทั้งหลากหลายและคุณสมบัติเพียบพร้อม
ส่วนคุณแคเทอรีน กีลูอาร์ (Catherine Guillouard) ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการกำกับดูแลของอินจีนิโก้ คุณแคเทอรีนสั่งสมประสบการณ์มามากมายทั้งในด้านธุรกิจ การบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องการเป็นผู้นำธุรกิจระดับโลก ขณะที่คุณรอล์ฟ สแตนเกิล (Rolf Stangl) เจอร์ราร์ด ชมิด (Gerrard Schmid) และลอเรนซ์ สต็อกเล็ต (Laurence Stoclet) ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้บริหารมากความสามารถที่มีผลงานยอดเยี่ยมในเรื่องการดำเนินงาน การพลิกโฉมธุรกิจ ประสบการณ์ที่สั่งสมมาในวงการ และการสร้างมูลค่า ก็จะมาเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการกำกับดูแลในฐานะกรรมการที่ไม่ใช่ผู้บริหารด้วย และท้ายที่สุด กองทุนอะพอลโลจะมีทีมบุคลากรผู้มากประสบการณ์ระดับโลกมาเป็นตัวแทน ไม่ว่าจะเป็นคุณมิเชล ราบา (Michele Rab?) ผู้เป็นหุ้นส่วน, คุณโรเบิร์ต คาลซอว์-รามอส (Robert Kalsow-Ramos) ผู้เป็นหุ้นส่วน, คุณคริสโตเฟอร์ ฮาร์วู๊ด (Christopher Harwood) หุ้นส่วนผู้บริการจัดการ และคุณยูเลีย ชาโควา (Yulia Shakhova) หุ้นส่วนหลัก
"ผมรู้สึกตื่นเต้นในการเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ และขอต้อนรับกรรมการท่านใหม่ ๆ ในคณะกรรมการกำกับดูแลของอินจีนิโก้ ทีมงานของอินจีนิโก้มีกลยุทธ์ก้าวไกลและมีทีมผู้บริหารจัดการที่มุ่งมั่นมาอย่างยาวนานในการทำตามกลยุทธ์นั้น ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า สมาชิกคณะกรรมการกำกับดูแลชุดใหม่จะเพิ่มคุณค่าได้มากมายต่อการเติบโตของอินจีนิโก้ เพราะแต่ละท่านล้วนแล้วแต่มีทักษะ ความเชี่ยวชาญ วิสัยทัศน์ และมุมมองเป็นของตนเอง" คุณแมททิว เดสโต ซีอีโอของอินจีนิโก้ กล่าว
อินจีนิโก้พร้อมเดินบนเส้นทางใหม่ในฐานะบริษัทอิสระด้วยทีมผู้บริหารที่มีใจมุ่งมั่น ขณะที่กระบวนการแยกธุรกิจจากเวิลด์ไลน์ (Worldline) ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วเป็นส่วนใหญ่
คุณแมททิว เดสโต เพิ่มเติมว่า "ในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของนี้ เราจะยังคงมุ่งมั่นในการทำให้ลูกค้าได้รับบริการและความพึงพอใจในระดับสูงสุดต่อไปอย่างไม่ติดขัด ทีมงานของอินจีนิโก้รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากเกี่ยวกับอนาคต โดยเราหวังที่จะเป็นพันธมิตรที่ดีกว่า แข็งแกร่งกว่า และคล่องตัวกว่าสำหรับลูกค้าและหุ้นส่วนของเราทั่วโลก"
เกี่ยวกับอินจีนิโก้
อินจีนิโก้ (Ingenico) เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันรับการชำระเงิน ในฐานะพันธมิตรด้านเทคโนโลยีที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ค้า ธนาคาร ผู้รับชำระเงิน ISV ตัวแทนชำระเงิน และลูกค้าภาคฟินเทค เทอร์มินัล โซลูชัน และบริการระดับเวิลด์คลาสของเรา ทำให้เกิดอีโคซิสเต็มรับการชำระเงินทั่วโลก อินจีนิโก้สั่งสมประสบการณ์มาถึง 45 ปี โดยมีนวัตกรรมเป็นหัวใจสำคัญในแนวทางและวัฒนธรรมของอินจีนิโก้ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ชุมชนผู้เชี่ยวชาญที่มีมากและหลากหลายของเราในการคาดการณ์และช่วยกำหนดทิศทางให้กับวิวัฒนาการของการค้าขายทั่วโลก ซึ่งที่อินจีนิโก้นั้น ความเชื่อมั่นและความยั่งยืนคือหัวใจของทุกสิ่งที่เราทำ
ทีเอ็มบีธนชาต เดินหน้าโครงการซื้อหุ้นคืนระยะ 3 ปี วงเงินรวม 21,000 ล้านบาท โดยกำหนดวงเงินครั้งที่ 2 เพิ่มขึ้นเป็น 8,900 ล้านบาท
"สารัชถ์ รัตนาวะดี แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2568 รวย 1.89 แสนล้านบาท"