เมื่ออาชีพและความรักไร้เพศ! เปิดใจไรเดอร์เลสเบี้ยน กับยุคที่ความเท่าเทียมเริ่มผลิบาน

เมื่อบรรทัดฐานทางเพศในสังคมไรเดอร์หายไป ความสุขก็ปรากฎ

คุณเบส-นิตยา แสงพงษ์วิทยา ไรเดอร์ LINE MAN ผู้ผ่านสังคมการทำงานที่ถูกตีกรอบว่าผู้หญิงต้องใส่กระโปรง ไว้ผมยาว และแต่งหน้าทาปาก สู่การทำงานในฐานะไรเดอร์ที่มีอิสระทั้งการทำงานและการแสดงออกทางเพศ บอกเล่าเรื่องราวการทำงานและมุมมองความรักของคู่รักเลสเบี้ยน ว่า "ตอนทำงานที่ชลบุรีโดนกดดันให้แต่งตัวแบบผู้หญิง ยิ่งหัวหน้ารู้ว่าเราชอบผู้หญิงก็พูดเสียดสีเรื่องรสนิยมทางเพศ และหาเรื่องตำหนิการทำงานตลอด ทำให้ไม่มีความสุข สุดท้ายทนไม่ไหวต้องลาออก หลังจากนั้นพยายามหางานใหม่ผ่านอินเตอร์เน็ต จนมาเจองานไรเดอร์เดลิเวอรีอาหารและสิ่งของให้ลูกค้า เลยตัดสินใจย้ายเข้ากรุงเทพฯ เพื่อลองทำงานนี้ และก็ค้นพบว่าชอบจนปีนี้ทำงานเป็นไรเดอร์มา 8 ปีแล้ว" 

ไรเดอร์ เป็นอาชีพที่ทุกเพศสามารถทำได้ แม้คนส่วนใหญ่จะมีภาพจำว่าต้องเป็นผู้ชาย โดย คุณเบสเล่าถึงการทำงานและความประทับใจว่า ในช่วงแรกที่เข้ามาทำงาน ไรเดอร์ผู้หญิงและเพศทางเลือกมีน้อย ส่วนหนึ่งอาจเพราะหลายคนกังวลเรื่องการยกของหนัก แต่พอทำจริง ๆ ก็อยู่ในระดับที่เราทำได้ และมักได้รับคำชื่นชมรวมถึงทิปจากลูกค้า ขณะที่ไรเดอร์ผู้ชายก็คอยเป็นห่วงและให้ความเอ็นดูเหมือนเป็นพี่น้องกัน ซึ่งในการทำงานมีเหตุการณ์หนึ่งที่ประทับใจที่สุดทำให้เราอยากทำงานต่อไป คือ เมื่อไปส่งข้าวให้ลูกค้าที่เป็นคู่แม่ลูก พอเด็กเห็นเรามาก็ยิ้มดีใจมาก ๆ เพราะจะได้กินข้าวแล้ว ทำให้อยากเห็นรอยยิ้มแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ"

รักของคู่เลสเบี้ยนในความเปิดกว้างของสังคม

เมื่อถามถึงเรื่องราวความรักกับ คุณเปิ้ล-สมศรี บุญธรรม ครูสาวที่มีเวลาว่างจากการรอบรรจุราชการครู คุณเบสเล่าว่า "LINE MAN เปิดกว้างเรื่องการแสดงออกทางเพศได้อย่างเต็มที่ เราสามารถพาแฟนนั่งซ้อนท้ายรถมาทำงานด้วยได้ ทำให้สามารถทำรอบการส่งได้ไวขึ้น เพราะมีแฟนคอยเดินลงไปรับของให้ ที่สำคัญยังมีเพื่อนคุยและเพื่อนกินข้าว ซึ่งงานไรเดอร์ต้องมีความอดทน เพราะอากาศร้อน และต้องขี่รถลัดเลาะไปตามที่ต่าง ๆ ทำให้เวลารถติดไฟแดง เขาจะนวดไหล่ให้ เพราะขี่รถนาน ๆ จะรู้สึกเกร็ง จนไรเดอร์คนอื่นที่ติดไฟแดงด้วยกันเอ่ยปากแซว"

เมื่อความรักไร้เพศต้องสนับสนุนความเท่าเทียม

แม้ปัจจุบันสังคมจะเปิดกว้างเรื่องเพศมากขึ้น แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ไม่ยอมรับ และมองว่าการคบเพศเดียวกันเป็นสิ่งที่ไม่มั่นคง เพราะไม่สามารถมีลูกและจดทะเบียนสมรสเพื่อสร้างอนาคตอันมั่นคงร่วมกันได้ ซึ่งทั้งคุณเบสและคุณเปิ้ลให้ความเห็นในประเด็นนี้ร่วมกันว่า "การแต่งงานมีลูกด้วยกัน ไม่ใช่ความมั่นคงที่ยืนยันได้ว่าจะไม่แยกทางหรือหย่าร้าง ฉะนั้นความรักไม่ใช่แค่เรื่องของชายหญิง เพราะเพศไหนก็สามารถมีความรักได้ รวมทั้งยังเป็นคนดีในสังคมได้เหมือนกัน ขอแค่เพียงสังคมเปิดใจยอมรับความแตกต่าง และพร้อมสนับสนุนให้มีกฎหมายหรือสวัสดิการสำหรับ LGBTQ+ ให้เท่าเทียมกันทุกเพศ"

• ข่าวความเท่าเทียม
• ข่าวขับเคลื่อน
• ข่าวภาคภูมิใจ
• ข่าวเดลิเวอรี
• ข่าวประเทศไทย