Galaxy Tab S10 FE Series เปิดตัวใหม่ มอบประสบการณ์สุดอัจฉริยะ ชูดีไซน์ระดับพรีเมียม ตอบโจทย์ครบจบทุกความต้องการ

ซัมซุง มอบประสบการณ์ใหม่ เปิดตัว Galaxy Tab S10 FE และ Galaxy Tab S10 FE+ พร้อมพาทุกคนเดินทางเข้าสู่อีโคซิสเต็มของ Galaxy อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยแท็บเล็ตดีไซน์ระดับพรีเมียม มาพร้อมหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในซีรีส์ Galaxy Tab FE และขอบจอที่บางลงช่วยเพิ่มพื้นที่การแสดงผล ทำให้ Galaxy Tab S10 FE+ มอบประสบการณ์ความบันเทิงได้อย่างเต็มอิ่ม ตอบโจทย์ทั้งการเรียน การทำงาน และการใช้งานในชีวิตประจำวัน ผ่านฟีเจอร์ AI อัจฉริยะของซัมซุงที่ช่วยให้ผู้ใช้งานทำสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยดีไซน์บางเบาและพกพาสะดวก พร้อมทำงานได้ทุกที่

ชางแท คิม รองประธานบริหารและหัวหน้าทีมวิจัยและพัฒนาคอมพิวเตอร์ใหม่ ธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ บริษัท ซัมซุง อิเลคทรอนิคส์ กล่าวว่า "Galaxy Tab S10 FE รุ่นใหม่ จะนำประสบการณ์การใช้ AI ขั้นสูงบนสมาร์ทโฟนและระบบอีโคซิสเต็มของซัมซุง ขยายไปยังผู้ใช้แท็บเล็ตให้มากขึ้น โดยยังคงมอบประสิทธิภาพและการออกแบบสุดล้ำให้ผู้ใช้ ซึ่งซัมซุงเชื่อมั่นว่าการพัฒนาขอบจอที่บางลงและจอแสดงผลที่กว้างขึ้น จะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีขึ้น รวมถึงยังมีการพัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ เพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจให้ผู้คนทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น และค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด"

หน้าจอใหญ่ คมชัด เต็มอรรถรส

Galaxy Tab S10 FE+ มาพร้อมจอแสดงผลขนาด 13.1 นิ้ว[1] ผสานการออกแบบดั้งเดิมของซีรีส์ Galaxy Tab S กับขอบจอที่บางลง มอบความบันเทิงที่เต็มอิ่มบนหน้าจอที่ใหญ่กว่า FE+ รุ่นก่อนหน้าเกือบ 12% ให้ภาพคมชัดลื่นไหลด้วยอัตราการรีเฟรช 90Hz และระดับความสว่างสูงสุดที่ 800 nits HBM บน Galaxy Tab S10 FE ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดเมื่อดูวิดีโอและเล่นเกม รวมทั้งมีการปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติของ Vision Booster ช่วยเพิ่มความสว่างและการมองเห็นแม้ในสภาพแวดล้อมกลางแจ้งที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในขณะที่หน้าจอจะลดการปล่อยแสงสีฟ้าเพื่อลดความเมื่อยล้าของดวงตา ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการรับชมที่ไม่เหมือนใคร

ประสิทธิภาพทรงพลังในดีไซน์พกพาสะดวก

Galaxy Tab S10 FE ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งการทำงานและการเรียน พร้อมมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่รวดเร็วและลื่นไหล ไม่มีสะดุด ด้วยการอัปเกรดชิปเซ็ต ประสิทธิภาพเร็วแรง ทำให้ผู้ใช้ Galaxy Tab S10 FE สามารถสลับการใช้งานระหว่างแอปฯ ได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้การทำงานหลายอย่างพร้อมกันดีขึ้น แม้แต่การถ่ายภาพโมเมนต์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ทั้งในห้องเรียนหรือในพื้นที่ทำงาน ก็พร้อมเสมอด้วยกล้องหลังความละเอียดสูง 13MP ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ สามารถสร้างภาพถ่ายที่คมชัดและสดใสมากกว่าที่เคย

พร้อมไปกับคุณทุกที่ ตั้งแต่การทำงานไปจนถึงการเล่นได้อย่างเต็มที่ เพราะ Galaxy Tab S10 FE รุ่นใหม่มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 4% ทำให้พกพาสะดวก เพิ่มความคล่องตัวในการใช้งานทั้งที่บ้าน ในมหาวิทยาลัย ที่ทำงาน และสถานที่ต่าง ๆ ด้วยดีไซน์สุดบางเฉียบ นอกจากนี้ยังถูกออกแบบมาเพื่อความทนทานและความคงทนต่อทุกสภาพอากาศ โดยมีระดับการป้องกัน IP68 เช่นเดียวกับ Galaxy Tab S10 รุ่นใหม่ล่าสุดอีกด้วย

ฟีเจอร์ AI อัจฉริยะ ปลดล็อกทุกศักยภาพการใช้งานขั้นสุด

Galaxy Tab S10 FE+ และ Galaxy Tab S10 FE เป็นรุ่นแรกในซีรีส์ FE ที่มาพร้อมความสามารถ AI ล้ำสมัยตั้งแต่แกะกล่อง โดยพัฒนาจากความเชี่ยวชาญเฉพาะของซัมซุง ในการมอบประสบการณ์ระดับพรีเมียมให้กับระบบนิเวศ Galaxy เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็น

• Circle to Search[2] ฟีเจอร์ยอดนิยมที่ผู้ใช้ชื่นชอบที่พัฒนาร่วมกับ Google ช่วยให้การค้นหาสิ่งที่เห็นบนแท็บเล็ตง่ายขึ้นโดยไม่ต้องสลับแอป พร้อมรับข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ทั้งแปลข้อความบนหน้าจอ หรือให้ช่วยทำการบ้านด้วยคำอธิบายทีละขั้นตอน โดยทั้งหมดนี้สามารถทำได้ครบจบบนหน้าจอเดียว
• ฟีเจอร์ของ Samsung Notes เช่น Solve Math[3] ได้รับการออกแบบมาสำหรับการคำนวณโจทย์เลขและสามารถประมวลผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว และ Handwriting Help[4] สำหรับจัดระเบียบโน้ต ตัวช่วยให้จดโน้ตได้เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้นและง่ายกว่าที่เคย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าได้ดีขึ้น
• เปิดใช้งานผู้ช่วย AI ได้ทันที เพียงแตะปุ่ม Galaxy AI Key[5] บน Book Cover Keyboard เพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ ผู้ช่วย AI ยังสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้ เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น
• Object Eraser[6] ได้รับการอัปเกรดใหม่ ให้ผู้ใช้สามารถลบสิ่งของหรือจุดที่ไม่ต้องการออกจากภาพถ่ายได้อย่างง่ายดาย พร้อมมีฟีเจอร์ปรับแต่งภาพอัตโนมัติ (Remaster) เพื่อที่จะแก้ไขรูปภาพที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
• Best Face[7] ฟีเจอร์ใหม่ที่จะมาช่วยให้ภาพถ่ายกลุ่มออกมาสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเคย โดยสามารถเลือกภาพใบหน้าในช่วงเวลาที่ดีที่สุดได้ด้วยตัวเอง
• Auto Trim[8] ช่วยให้ช่วงเวลาอันน่าประทับใจมีชีวิตชีวาขึ้น โดยสามารถรวมคลิปวิดีโอได้หลายคลิป เพื่อตัดแล้วรวบรวมแค่เฉพาะไฮไลต์มาเป็นคลิปเดียวได้อย่างลื่นไหล
• นอกจากนี้ Galaxy Tab S10 FE Series ยังมาพร้อมแอปสร้างสรรค์ที่ติดตั้งมาพร้อมเครื่อง[9] เช่น LumaFusion[10], Goodnotes[11], Clip Studio Paint[12] และแอปที่น่าสนใจอื่น ๆ อย่าง Noteshelf 3[13], Sketchbook และ Picsart[14]

เพื่อประสบการณ์ AI ที่ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ซีรีส์ FE สามารถผสานรวมกับอุปกรณ์ Samsung Galaxy อื่น ๆ ได้อย่างราบรื่น เช่นเดียวกับ Galaxy Tab S10 ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลภาพรวมสถานะภายในบ้านของตนด้วยแดชบอร์ดวิดเจ็ต Home Insight และฟีเจอร์ 3D Map View เพื่อการอัปเดตสถานะของอุปกรณ์ที่เปิดใช้งาน SmartThings ช่วยให้ผู้ใช้อุ่นเมื่อไม่อยู่บ้าน

ระบบความปลอดภัยอันดีเยี่ยม

Galaxy Tab S10 FE ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยด้วย Samsung Knox แพลตฟอร์มความปลอดภัยที่มีระดับการป้องกันหลายชั้นของ Samsung Galaxy สร้างขึ้นเพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญป้องกันช่องโหว่ด้วยฮาร์ดแวร์แบบ end-to-end สามารถตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ และมีการป้องกันแบบร่วมกันหลายฝ่าย

การจัดจำหน่าย

Galaxy Tab S10 FE และ Galaxy Tab S10 FE+ จะพร้อมวางจำหน่วยในวันที่ 3 เมษายน 2025 โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในบางประเทศ และมีให้เลือกสองสี ได้แก่ สีเทา (Gray) และสีฟ้า (Blue) สำหรับในประเทศไทยจะมีการประกาศวันที่วางจำหน่ายอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้[15] ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Galaxy Tab S10 FE สามารถดูได้ที่: https://www.samsung.com/th/tablets/

----------

[1] วัดตามแนวทแยงมุม 13.1 นิ้วในสี่เหลี่ยมผืนผ้าเต็มรูปแบบ และ 13.0 นิ้วเมื่อวัดมุมโค้งมน พื้นที่ที่มองเห็นได้จริงจะน้อยกว่าเนื่องจากมุมโค้งมนของหน้าจอ

[2] ผลลัพธ์ในบางกรณีอาจแตกต่างกันไปตามประเทศ ภาษา และรุ่นของอุปกรณ์ โดยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอาจจำเป็น และผู้ใช้ควรอัปเดต Android และแอป Google ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด

[3] ฟีเจอร์นี้ทำงานบนอุปกรณ์โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต แต่ต้องล็อกอินด้วยบัญชีซัมซุง และการเขียนลายมือที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้การคำนวณไม่แม่นยำ[4] ทำงานบนอุปกรณ์และไม่ต้องการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแต่ต้องล็อกอินด้วยบัญชีซัมซุง[5] คีย์บอร์ด Book Cover และ Book Cover Keyboard Slim ขายแยกต่างหาก การเชื่อมต่อเครือข่ายจำเป็นสำหรับการใช้ Bixby หรือ Gemini

[6] อาจแตกต่างกันไปตามภาพและวัตถุที่คุณพยายามจะลบ

[7] ใช้ได้เฉพาะกับภาพที่ถ่ายด้วย Motion Photo เท่านั้น

[8] ความยาวสูงสุดต่อคลิปคือ 90 นาที และสูงสุด 180 นาทีสำหรับคลิปรวมกัน

[9] ความพร้อมของแอปและเงื่อนไขการให้บริการอาจแตกต่างกันไปตามประเทศและภูมิภาค

[10] แอปถูกติดตั้งเป็น stub และต้องทำการซื้อจาก Galaxy Storeผู้ใช้ Galaxy ทุกคนจะได้รับส่วนลด 50% เมื่อซื้อจาก Galaxy Store และรับการสมัครสมาชิก Creator Pass ฟรี 1 เดือน โปรโมชันส่วนลด 50% มีระยะเวลาจำกัดถึง 30 พฤศจิกายน 2568

[11] ต้องดาวน์โหลดแยกต่างหากจาก Galaxy Store พร้อมให้ทดลองใช้ฟรี 1 ปี

[12] แอปสามารถดาวน์โหลดได้จาก Galaxy Store และมาพร้อมกับการทดลองใช้งานฟรี 6 เดือนสำหรับผู้ใช้ครั้งแรก เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาทดลองใช้งานฟรี จะต้องมีการสมัครสมาชิกแบบรายเดือนหรือรายปีแบบชำระเงินสำหรับการใช้งานต่อเนื่อง มีส่วนลด 20% สำหรับการสมัครสมาชิกครั้งแรก

[13] ต้องซื้อพรีเมียมแยกต่างหากส่วนลด 30% สำหรับการอัปเกรดมีให้เฉพาะผ่าน Galaxy Store เท่านั้น

[14] ต้องดาวน์โหลดแยกต่างหากจาก Google Play Store คุณสมบัติเพิ่มเติมอาจต้องมีการซื้อแยกต่างหาก

[15] สีและรุ่นที่วางจำหน่ายอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเทศ ภูมิภาค หรือผู้ให้บริการ

• ข่าวอีโคซิสเต็ม
• ข่าวแท็บเล็ต
• ข่าวการทำงาน
• ข่าวo:member
• ข่าวบันเทิง