เลอโนโว ครองแชมป์อันดับ 1 ต่อกันสี่ปีซ้อน ในการเป็นบริษัทซัพพลายเชนที่ดีที่สุดในเอเชียแปซิฟิก จากการจัดอันดับ Gartner(R) Supply Chain Top 10

เลอโนโว ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก ครองแชมป์อันดับหนึ่งบริษัทซัพพลายเชนที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากการจัดอันดับของ Gartner(R) Asia/Pacific Supply Chain Top 10 ประจำปีพ.ศ. 2568 ต่อเนื่อง1เป็นปีที่ 4 ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำของเลอโนโวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งเป็นที่ตั้งขององค์กรชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรม โดยการจัดอันดับนี้จะมุ่งส่งเสริมองค์กรที่มีความเป็นเลิศด้านซัพพลายเชน ทั้งในแง่ของการปรับตัวเพื่อรองรับการเติบโต, การเสริมประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นผ่านเทคโนโลยี และการส่งเสริมความยั่งยืนผ่านนวัตกรรมหมุนเวียน ซึ่งเลอโนโวได้มีการเดินหน้ายกระดับความเป็นเลิศด้านการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อพลิกโฉมซัพพลายเชนและเครือข่ายการผลิตในระดับโลก ซึ่งนอกเหนือจากรางวัลที่ได้รับในระดับเอเชียแปซิฟิคแล้ว เลอโนโวยังสร้างอีกหนึ่งความสำเร็จระดับโลก ด้วยการขยับขึ้นสู่อันดับที่ 8 ของโลกจากการจัดอันดับ The Gartner(R) Supply Chain Top 25 ประจำปีพ.ศ. 2568 จากอันดับที่ 10 เมื่อปีก่อนหน้า

การได้รับเลือกในตำแหน่งผู้นำซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการยอมรับจากทั่วอุตสาหกรรมถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับเลอโนโว การครองตำแหน่งในครั้งนี้ได้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้าน AI ความเป็นเลิศในการปฎิบัติการณ์ และความเป็นผู้นำด้าน ESG ซึ่งผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในทุกเกณฑ์การประเมินยิ่งตอกย้ำบทบาทของเลอโนโวในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการพลิกโฉมซัพพลายเชนอย่างแท้จริง

เสริมสร้างความยืดหยุ่นทางธุรกิจผ่านการเติบโตทั่วโลก

ระบบซัพพลายเชนของเลอโนโวซึ่งมีความยืดหยุ่น, แข็งแกร่ง และครอบคลุมเคลือข่ายระดับโลกคือรากฐานความสำเร็จของบริษัทฯ ในการรับมือกับความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ โดยปัจจุบัน เลอโนโวดำเนินธุรกิจที่ครอบคลุมใน 180 แห่งทั่วโลก และมีเครือข่ายโรงงานการผลิตมากกว่า 30 แห่งใน 11 ตลาดทั่วโลก ซึ่งช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายการดำเนินงานได้อย่างคล่องตัวและยืดหยุ่น

นอกจากนี้ เลอโนโวเตรียมพร้อมขยายฐานการผลิตไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อสนับสนุนลูกค้าในภูมิภาคะวันออกกลางและแอฟริกา (MEA) และรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การขยายฐานการผลิตในครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินงานในระดับภูมิภาค พร้อมต้อนรับโอกาสในการเติบโตของตลาด และเพิ่มความรวดเร็วในการส่งมอบผลิตภัณฑ์, บริการ และโซลูชันให้แก่ลูกค้าในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

การลงทุนเชิงกลยุทธ์เหล่านี้ช่วยเสริมศักยภาพให้เลอโนโวสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างรวดเร็ว พร้อมคงไว้ซึ่งมาตรฐานการให้บริการระดับสูงและความยืดหยุ่นในการดำเนินงานขับเคลื่อนประสิทธิภาพด้วยระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI

กลยุทธ์ "Lenovo Powers Lenovo" คือหัวใจสำคัญของระบบซัพพลายเชนของเลอโนโว โดยกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นการนำเอาเทคโนโลยี, โซลูชันด้านอินฟราสตรัคเจอร์ และองค์ความรู้ความสามารถทั้งหมดของเลอโนโวเอง มาใช้ในการยกระดับการปฎิบัติงาน ซึ่งภายใต้กลยุทธ์นี้ เลอโนโวยังได้นำ AI เข้ามาใช้ในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การผลิตและการจัดการระบบการส่งสินค้า ไปจนถึงความยั่งยืน และการให้บริการแก่ลูกค้า อันเป็นความแข็งแกร่งของการเป็นซัพพลายเชนระดับโลกอย่างแท้จริง

ดังจะเห็นได้จากการพัฒนาอุปกรณ์และโซลูชั่นต่าง ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งช่วยเพิ่มการมองเห็นในกระบวนการจัดการซัพพลายเชนในทุกมิติ พร้อมทั้งการแจ้งเตือนความเสี่ยงแบบเรียลไทม์, ออโตเมชั่น, เพื่อเป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น หากเกิดความล่าช้าในเส้นทางการส่งสินค้า ระบบจะตรวจจับและแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติ พร้อมประเมินทางเลือกต่าง ๆ ทั้งต้นทุนที่เกี่ยวข้อง และแนะนำแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการดำเนินการต่อไป

คุณอมาร์ บาบู, ประธาน, เลอโนโว ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค, กล่าวว่า "การได้รับเลือกให้อยู่ในตำแหน่งผู้นำในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกติดต่อกันถึงสี่ปีซ้อน พร้อมกับการถูกจัดอันดับในระดับโลกที่สูงขึ้นถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับเลอโนโว และการได้รับการยอมรับเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาซัพพลายเชนให้มีความฉลาด และมีความยืดหยุ่น ตั้งแต่การใช้เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไปจนถึงการสร้างระบบการส่งสินค้า ที่ยั่งยืน นวัตกรรมของเรากำลังช่วยให้ลูกค้า และพาร์ทเนอร์สร้างความได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจ ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว"

ขับเคลื่อนความยั่งยืนผ่านนวัตกรรมหมุนเวียน

ความยั่งยืนยังคงเป็นหนึ่งในวาระสำคัญของการจัดอันดับผู้นำด้านซัพพลายเชนในเอเชียแปซิฟิกที่ติด 10 อันดับแรก โดยมีนวัตกรรมหมุนเวียนเป็นกลยุทธ์หลักในการสร้างความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม

เลอโนโวเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบหมุนเวียน โดยได้นำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในผลิตภัณฑ์กว่า 298 รุ่น รวมถึงการนำเส้นใยคาร์บอนที่เหลือใช้จากอุตสาหกรรมการบินมาใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ บริษัทยังพัฒนาบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน ดวยการใช้วัสดุจากอ้อยและเยื้อไผ่ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเลอโนโวในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างมีความรับผิดชอบ

ไม่เพียงเท่านี้ เลอโนโวยังได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่สามจากการจัดอันดับของ Gartner Supply Chain Top 25 และ Masters for 2025: High Tech Top 10 อีกด้วย

ข่าวเอเชียแปซิฟิก+อันดับหนึ่งวันนี้

ดิ เอราวัณ กรุ๊ป คว้าคะแนนเต็ม AGM Checklist ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน จากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย