กสิกรไทยเอาใจคนไทยเที่ยวนอกใช้จ่ายเหมือนคนท้องถิ่นที่ สปป.ลาว มาเลเซีย เวียดนาม สแกนจ่ายผ่าน K+ Go Inter ง่ายไปอีก เผยธุรกรรมสแกนจ่ายผ่าน K PLUS ไตรมาส 2 เติบโตสูง 34%

ดร.พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยมุ่งพัฒนาบริการชำระเงินระหว่างประเทศที่มีความเสถียรและปลอดภัยสูง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งต้องการความสะดวกในการใช้จ่าย ทั้งการชอปปิง หรือกินอาหารท้องถิ่นตามสตรีทฟู้ดชื่อดัง แต่เดิมต้องพกเงินสดถึงจะสามารถเข้าถึงความเป็นท้องถิ่นในประเทศนั้น ๆ ได้ แต่ด้วย K+ Go Inter ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้จ่ายได้ง่ายเหมือนคนท้องถิ่น โดยธนาคารเห็นการเติบโตของการชำระเงินผ่าน QR เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปริมาณธุรกรรมในไตรมาส 2 ปี 2568 มีการเติบโต 34% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา โดยเฉพาะในประเทศกลุ่มอาเซียน ไม่ว่าจะเป็น สปป.ลาว มาเลเซีย และเวียดนาม เนื่องจากพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป เน้นเที่ยวประเทศใกล้ ๆ และใช้จ่ายคุ้มค่า

นักท่องเที่ยวไทยสามารถใช้ฟีเจอร์ K+ Go Inter บน K PLUS สแกนจ่ายร้านค้าใน สปป.ลาว ที่มีสัญลักษณ์ LAO QR UnionPay QR และ Alipay+ รวมกว่า 200,000 จุด โดยไม่ต้องโหลดแอปพลิเคชันเพิ่มและไม่มีค่าธรรมเนียม ใช้จ่ายง่ายทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ รวมถึงร้านสตรีทฟู้ดในแหล่งท่องเที่ยว เช่น ถนนคนเดินริมโขง ตลาดริมโขง ตลาดเช้าเวียงจันทน์ และตลาดหลวงพระบาง ทำให้ปริมาณธุรกรรมผ่าน Cross-Border QR Payment ใน สปป.ลาว เติบโตอย่างเห็นได้ชัด โดยในปัจจุบันธนาคารมีส่วนแบ่งตลาดใน สปป.ลาว มากกว่า 59% และคาดการณ์ว่าในปี 2568 มูลค่าการใช้จ่ายของลูกค้าผ่าน QR จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

มาเลเชีย และเวียดนาม เป็นอีก 2 ประเทศที่คนไทยนิยมไป K+ Go Inter ก็ช่วยให้ใช้จ่ายง่ายเหมือนคนท้องถิ่น เพียงมองหาโลโก้ Alipay + และ UnionPay QR โดยมาเลเซียสามารถสแกนจ่ายผ่านเครือข่าย Alipay+ ซึ่งครอบคลุมร้านค้ากว่า 2 ล้านจุด และเครือข่าย UnionPay QR อีกกว่า 141,000 จุดทั่วประเทศ รวมถึงเวียดนามที่สามารถใช้ K+ Go Inter สแกนจ่ายผ่าน UnionPay QR ที่มีกว่า 100,000 จุดทั่วประเทศเช่นกัน โดยใช้ได้ทั้งในร้านค้าใหญ่ หรือร้านค้าในตลาดท้องถิ่น เช่น Japan Alor Market ที่มาเลเซีย หรือ Ben Thanh Market ที่เวียดนาม

K+ Go Inter ช่วยให้ลูกค้าสามารถเดินทางไปต่างประเทศโดยไม่ต้องแลกเงิน ไม่เสียค่าธรรมเนียม และมีระบบความปลอดภัยเทียบเท่าการทำธุรกรรมในประเทศ โดยปัจจุบันใช้จ่ายได้ครอบคลุมภูมิภาคทั่วโลก กว่า 40 ประเทศ และคาดว่าปริมาณธุรกรรมใช้จ่ายผ่าน QR ในต่างประเทศจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2568 จากพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เน้นความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ลูกค้าที่สนใจใช้บริการ K+ Go Inter สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.kasikornbank.com/k_46pIHkG

• ข่าวพิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์
• ข่าวธนาคารกสิกรไทย
• ข่าวธนาคารกสิกรไท
• ข่าวไทยเที่ยวนอก
• ข่าวธนาคารกสิกร