กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--วอเนอร์ บรอส
ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที กอร์ดี้ บรูเออร์ ( Gordy Brewer รับบทโดย อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ - Arnold Schwarzenegger ) สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารักและห่วงใยยิ่งกว่าชีวิตของตนเอง
บรูเออร์ ไปถึงที่หมายช้ากว่าเวลานัดกับภรรยาและบุตรชายที่ใต้อาคารสูงกลางเมืองในเช้าวันหนึ่ง แต่นักผจญเพลิงแห่งลอสแองเจลิส ( L.A. firefighter ) หนุ่มใหญ่ และคุณพ่อผู้อุทิศชีวิตให้กับครอบครัวก็ทันเห็นเหตุการณ์ระเบิดที่ลอบวางไว้ในมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง ซึ่งแรงระเบิดถล่มบริเวณนั้นแหลกเป็นจุล ทั้งเศษซากอาคาร และกระจกแตกกระจายเกลื่อนกลาดไปทั่ว
เอล โลโบ ( El Lobo ) หรือ เดอะ วูล์ฟ ( The Wolf ) หัวหน้ากองกำลังกบฎชื่อกระฉ่อนที่ต่อสู้ในสงครามกลางเมืองโคลัมเบีย ( Colombia ) มานานกว่าทศวรรษกล่าวอ้างความรับผิดชอบวินาศกรรมระเบิดกลางเมืองครั้งนี้ เป้าหมายการโจมตีอยู่ที่คณะกงศุลโคลัมเบีย ( Colombian consulate ) และเจ้าหน้าที่อเมริกัน ( American intelligence agents ) กลุ่มหนึ่ง ในบรรดาเหยื่อที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากวินาศกรรมครั้งนี้มี เด็กชายเล็ก ๆ คนหนึ่ง กับ ผู้หญิงพลเรือนหนึ่งคน รวมอยู่ด้วย ทั้งสองเป็นสมาชิกครอบครัวของ กอร์ดี้ ( Gordy ) นั่นเอง ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องมาจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถเพียงเพราะมาอยู่ผิดที่ผิดเวลาเท่านั้น
คำปลอบใจเดียวต่อการสูญเสียครอบครัวไปอย่างไม่มีวันกลับของ กอร์ดี้ ก็คือ ความยุติธรรมน่าจะเอื้อมไปจัดการกับตัวการก่อวินาศกรรมครั้งนี้ให้สาสม และน่าจะหยุดยั้ง เดอะ วูล์ฟ ( the Wolf ) ไว้ได้ก่อนที่เขาจะมีโอกาสก่อวินาศกรรมอีกครั้ง แต่หลายสัปดาห์ผ่านไป เหตุการณ์ร้ายก็ดูราวจะถูกลืมเลือนไปทุกที บรูเออร์ ติดตามถามไถ่กระบวนการยุติธรรม แต่การไล่ล่า เดอะ วูล์ฟ ( The Wolf ) ดูจะไม่คืบหน้าไปถึงไหนเอาเสียเลย
แม้เพื่อน ๆ และ เจ้าหน้าที่เอฟ บี ไอ ( FBI ) จะห้ามปราบอย่างไร, หรือแม้แต่คำเตือนกร้าวจากเจ้าหน้าที่ ซี ไอ เอ แบรนท์ ( CIA agent Brandt รับบทโดย เอลเลียส โคทีส - Elias Koteas ) แต่ กอร์ดี้ ก็มุ่งมั่นที่จะตามล่า เดอะ วูล์ฟ ( The Wolf ) ด้วยตัวเอง ปฏิบัติการเดี่ยวทวงหนี้แค้นครั้งนี้นำเขาก้าวล่วงเข้าสู่ป่าลึกของประเทศโคลัมเบีย ( Colombia ) ที่ยังอยู่ในสภาวะสงครามอย่างไปหยุดหย่อน มันดูราวกับจะเป็นปฏิบัติการที่แทบจะหาความสำเร็จเอาไม่ได้เสียเลย และมันอาจจะหนักหนาสาหัสถึงกับคร่าชีวิตของ กอร์ดี้ เองเสียด้วยซ้ำ แต่เขาก็ไม่หวาดหวั่นที่จะต้องเผชิญหน้ากับภัยนานัปการ หรือแม้แต่ยถากรรมครั้งลำเค็ญนี้แม้แต่น้อยก็เขาไม่มีสิ่งใดจะสูญเสียอีกแล้ว
บริษัทภาพยนตร์ Warner Bros. Pictures ร่วมกับ Bel-Air Entertainment ภูมิใจเสนอผลงานการสร้างของ David Foster Production ในภาพยนตร์ของ แอนดรู เดวิส ( Andrew Davis ) นำแสดงโดย อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ( Arnold Schwarzenegger ) เรื่อง "Collateral Damage" พร้อมด้วยนักแสดงสมทบคับคั่ง อาทิ เอลเลียส โคทีส ( Elias Koteas ), ฟรานเชสก้า เนอรี่ ( Francesca Neri ), คลิฟ เคอร์ติส ( Cliff Curtis ), จอห์น ลากีซาโม่ ( John Leguizamo ), และจอห์น เทอร์เทอร์โร่ ( John Turturro )
ภาพยนตร์เรื่อง "Collateral Damage" กำกับโดย แอนดรู เดวิส ( Andrew Davis ), สตีเว่น รูเธอร์ ( Steven Reuther ) และ เดวิด ฟอสเตอร์ ( David Foster ) เป็นผู้อำนวยการสร้างจากโครงเรื่องของ โรนัลด์ รู้ส ( Ronald Roose ), เดวิด กริฟฟิธ ( David Griffiths ) และ ปีเตอร์ กริฟฟิธ ( Peter Griffiths ), และบทภาพยนตร์โดย เดวิด กริฟฟิธ ( David Griffiths ) และ ปีเตอร์ กริฟฟิธ ( Peter Griffiths ), ฮอว์ค โค้ช ( Hawk Koch ) กับ นิโคลาส เมเยอร์ ( Nicholas Meyer ) เป็นผู้บริหารงานอำนวยการสร้างภาพยนตร์อดัม กรีนเบิร์ก ( Adam Greenberg, A.S.C ) เป็นผู้กำกับภาพ, ฟิลิป โรเซ็นเบิร์ก ( Philip Rosenberg ) เป็นผู้ออกแบบสร้างสรรค์ฉาก, เดนนิส เวิร์คเลอร์ ( Dennis Virkler, A.C.E. ) และ โด้ฟ โฮนิก ( Dov Hoenig, A.C.E. ) เป็นผู้ตัดต่อภาพยนตร์, แกรม เรฟเวล ( Graeme Revell ) เป็นผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบภาพยนตร์
ภาพยนตร์เรื่อง "Collateral Damage" จัดจำหน่ายทั่วโลกโดย Warner Bros. Pictures หนึ่งในเครือ AOL Time Warner Company กว่าจะมาเป็นภาพยนตร์เรื่อง "Collateral Damage"
สิ่งที่ กอร์ดี้ บรูเออร์ ( Gordy Brewer ) รู้ดีที่สุดก็คือการเป็นคุณพ่อที่ดี และสามีที่น่ารัก ทั้งแม็ท ( Matt ) บุตรชายของเขาก็ปลื้มคุณพ่อไม่น้อย ส่วนภรรยาก็ได้เขาเป็นเพื่อนคู่ชีวิตที่ดีที่สุด กอร์ดี้ เป็นผู้บัญชาการหน่วยผจญเพลิงลอส แองเจลิส ( Los Angeles Fire Department ) ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่จะต้องคอยปลอบโยนบรรดาผู้บาดเจ็บ และตื่นตระหนกจากนาทีชีวิตที่ตกอยู่ในอันตราย สิ่งที่ผู้รอดชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้จดจำได้นั้น คงไม่ใช่ความแข็งแกร่งของนักผจญเพลิง หากแต่เป็นถ้อยคำปลอบโยน และความสุภาพอ่อนน้อมของพวกเขาต่างหาก
แต่เมื่อเข้าสู่สมรภูมิการเมืองระหว่างประเทศ และขบวนการก่อการร้ายข้ามโลกแล้ว กอร์ดี้ ก็รู้ดีว่า เขาไม่มีความรู้หยั่งลึกเลยแม้แต่น้อย หลังจากสูญเสียทั้งภรรยา และบุตรชายในเหตุระเบิดก่อการร้าย เขาจึงจำใจยอมรับคำแนะนำของ เจ้าหน้าที่ ซี ไอ เอ แบรนท์ ( CIA operative Brandt ) ที่ส่งเขากลับบ้าน พร้อมคำกล่าวให้ความมั่นใจว่า "เราจะหาตัวผู้ก่อการร้ายมาลงโทษให้ได้"
เวลาล่วงเลยไปหลายสัปดาห์แล้ว ปต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายกลับยังความหาตัวคนร้ายไม่ได้ และมีทีท่าจะคว้าน้ำเหลวอีกคดี กอร์ดี้ จึงไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป ยิ่งเขาย้ำถามความคืบหน้าของคดีก็ได้รับคำตอบเชิงแนะนำว่า ให้พยายามทำใจ และเริ่มใช้ชีวิตก้าวต่อไป กอร์ดี้ จึงเริ่มเข้าใจสถานการณ์ดีขึ้นว่า หากเขาต้องการให้ผู้ก่อการร้ายได้รับโทษอย่างสาสม เขาก็จะต้องไล่ล่าด้วยตัวเอง
กอร์ดี้ จึงตัดสินใจเดินทางมายังประเทศโคลัมเบีย ( Colombia ) โดยมีเพียงหนังสือเดินทาง และเงินสดเล็กน้อยติดตัวมาเท่านั้น ปฏิบัติการไล่ล่าของชายผู้มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวที่หมายหาตัวผู้ก่อการร้ายเข่นฆ่าครอบครัวของเขาเริ่มต้นขึ้น ณ จุดนั่นเอง เขาคืบคลานผ่านจุดตรวจสอบด่านแล้วด่านเล่าเข้าใกล้เขตกองกำลังกบฎทุกที กอร์ดี้ ได้รู้ได้เห็นข้อเท็จจริงของสภาพสังคมที่เกิดสงครามกลางเมืองอย่างเต็มตาน่าสะเทือนใจเป็นครั้งแรกในชีวิต เขายังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนที่ต้องอยู่อย่างตกทุกข์ได้ยาก และหวาดกลัวระแวงตลอดเวลา แม้เพียงชั่วครู่ที่เขาได้พบปะกับผู้คนเดินถนน แต่ทั้งท่าทาง และสีหน้าแววตาของคนเหล่านั้นก็แสดงถึงความหวาดกลัว และวิตกจริตที่เห็นเขาโผล่มาผิดที่ผิดถิ่น ตลอดเวลาที่ กอร์ดี้ พยายามไล่ล่าหาตัว เดอะ วูล์ฟ ( The Wolf ) เขาก็ต้องพยายามปรับตัวรับกับสภาพชีวิตนี้ให้ได้
"กอร์ดี้ ก็เหมือนปุถุชนทุกคนนั่นแหละ" สตีเว่น รูเธอร์ ( Steven Reuther ) ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์กล่าว "การบุกป่าฝ่าดงเข้าไปอย่างนั้น ไม่เฉพาะเขาหรอกนะที่จะดูแปลกที่แปลกถิ่น พวกเราก็ไม่ต่างไปจากเขาเลยสักนิด เราจะได้เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่เขาได้เห็นเป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน และอาจจะอยากถามคำถามเช่นเดียวกับที่เขาสงสัยก็เป็นได้ "นับตังแต่วันที่ 11 กันยายนมานี่" รูเธอร์กล่าวต่อ "เรื่องราวใน 'Collateral Damage' จึงกลายเป็นบทเรียนที่ทุกคนจะต้องพยายามทำความเข้าใจให้ได้ ภาระกิจบุกเดี่ยวสุดระห่ำอย่างที่กอร์ดี้ บรูเออร์ ( Gordon Brewer ) ตัดสินใจลงไปนี่จึงไม่ยากเกินกว่าที่ทุกคนจะเข้าใจได้"
บทบาทของ กอร์ดี้ ยังสะกิดใจ เดวิด ฟอสเตอร์ ( David Foster ) ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ให้ระลึกย้อนกลับไปถึงเมื่อครั้งชมรายการ "Nightline" ปี 1988 ที่ว่าด้วยกรณีเที่ยวบิน TWA ร่วงเหนือเมืองล็อคเคอร์บี้ ในสก็อตแลนด์ ( Lockerbie, Scotland ) โดยฝีมือของผู้ก่อการร้าย และสูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปถึง 270 ชีวิต - ความหดหู่ครั้งนั้น ยังสะเทือนใจมาจนกระทั่งทุกวันนี้"ขณะที่ผมดูภาพ บรรดาญาติมิตรของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้นเดินทางมาถึงเมืองล็อคเคอร์ปี้ ( Lockerbie )" ฟอสเตอร์เล่า "ผมเข่าอ่อนจริง ๆ ผมจินตนาการว่า ถ้าผมเป็นส่วนหนึ่งของคนเหล่านั้น แล้วได้ตระหนักว่า ชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปมากมายขนาดไหน แล้วจะรับมือการสถานการณ์หนักอึ้งกันยังไง ? มันทำให้ผมคิดเค้าโครงเรื่องขึ้นมาได้ตั้งแต่นั่นเลยเชียวล่ะครับ - มันเน้นย้ำคำถามโดนใจหลายข้อให้เด่นชัดขึ้นมาเลย"
ผู้คนที่ กอร์ดี้ พบเจอตลอดการเดินทางของเขา ต่างก็มีความหลังเจ็บฝังใจเลวร้ายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เมื่อผ่านหมู่บ้านห่างไกลแห่งหนึ่ง กอร์ดี้ เจอ เซเลน่า ( Selena ) คุณแม่ยังสาวกับบุตรชายบุญธรรมของเธอชื่อ มัวโร ( Mauro ) ทั้งคู่ทำให้เขาหวนคิดถึงภรรยาและบุตรชายของเขาที่ล่วงลับไปแล้ว เซเลน่า โยกย้ายถิ่นฐานมาอยู่อเมริกาใต้ ( South America ) ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น, ตกหลุมรักชายชาวโคลัมเบี้ยน ( Colombian ) คนหนึ่ง, และยอมรับประเทศ - รวมทั้งปัญหาของมัน - มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเธอเองเซเลน่า เป็นปมสำคัญของเรื่อง รับบทโดยนักแสดงสาวชาวอิตาเลี่ยน ( Italian ) ชื่อ ฟรานเซสก้า เนอรี่ ( Francesca Neri ) บทสนทนาระหว่าง เธอ กับ กอร์ดี้ ล้วนให้ข้อมูลเชิงลึก และอดีตอันปวดร้าวที่ กอร์ดี้ อาจจะได้แต่คาดเดาเท่านั้น ในที่สุดเขาก็มองว่า เธอ เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่พยยายามจะเลี้ยงดูบุตรชายให้เติบใหญ่ขึ้นในสภาวะสงคราม และนั่นทำให้เขาต้องการปกป้องคุ้มครองเธอและบุตรชายเฉกเช่นเดียวกับที่เขาควรปกป้องคุ้มครองครอบครัวของเขาเอง หากมีโอกาสอีกสักครั้ง
การห่วงใยใส่ใจชีวิตของผู้อื่น ทำให้ กอร์ดี้ ระลึกถึงคนแบบที่เขาเคยเป็น นั่นทำให้ปฏิบัติการทวงแค้นของเขาอันตรายยิ่งขึ้นหลายเท่าตัวอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ( Arnold Schwarzenegger ) เล่าว่า การมีเด็กเข้ามาพัวพันด้วยทำให้ตัวละครของเขาต้องไตร่ตรองการกระทำ และผลที่จะสะท้อนกลับมาจากการกระทำถ้วนถี่ยิ่งขึ้น "ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะ หนุ่มน้อยมัวโร ( Mauro ) นี่แหละ" เขากล่าว "กอร์ดี้ อาจจะทำอะไรไม่สำเร็จลุล่วงไปได้หากมีเพียงตัวเขาเพียงลำพัง มันเป็นสัญชาตญาณตามธรรมชาติที่จะต้องปกป้องและคุ้มครองเด็ก ในขณะที่ตัว กอร์ดี้ เองก็วางระเบิดเป็นกับดักไว้รอบ ๆ ค่ายกองโจร มัวโร เองก็เถอะ ต้องตกเป็นตัวกลางในสถานการณ์ที่ขัดแย้งกันเองไม่น้อย เขาเป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญต่อหนังนี้มากเชียวล่ะ"
ก่อนเปิดกล้อง คณะผู้สร้างภาพยนตร์ศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากสารคดีว่าด้วยความขัดแย้งภายในประเทศโคลัมเบีย ( Colombia ) และเป็นแรงบันดานใจในฉากหนึ่งที่ แอนดรู เดวิส ( Andrew Davis ) ผู้กำกับภาพยนตร์สาธยายว่า "มีอยู่ฉากหนึ่งที่น่ากลัวมาก ๆ มันเป็นการปิดถนนเพื่อตรวจค้น" เขาเล่า "ซึ่งใกล้เคียงกับในหนังสารคดีมาก เราพยายามสร้างให้เห็นถึงความหวาดกลัว และผู้คนที่เดินทางผ่านเส้นทางนั่น แล้วเมื่อมาถึงจุดสกัด พวกเขาต้องตัดสินใจว่า จะหนีเอาตัวรอด หรือ จะผ่านด่านสกัดไป ซึ่งส่วนใหญ่ตัดสินใจวิ่งหนีเข้าป่า ซึ่งก็โดนยิงไล่หลังไปทันที ฉากนี้เป็นประสบการณ์ช่วงต้น ๆ ของ กอร์ดี้ ที่ต้องเข้าไปพัวพันกับความป่าเถื่อนของสถานการณ์ต่างบ้านต่างเมือง แต่เขาก็ยังอุตส่าห์ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้รอดพ้นจากการเข่นฆ่าเยี่ยงผักปลากมาได้ส่วนหนึ่ง"
เมื่อการไล่ล่าอย่างไม่ย่อท้อของ กอร์ดี้ นำเขาออกจากป่าของประเทศโคลัมเบีย ( Colombia ) กลับมาสู่ถนนสายสำคัญของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ( Washington, D.C. ) เป้าหมายการก่อวินาศกรรมครั้งใหม่ของผู้ก่อการร้ายหน้าเดิม บัดนั้น กอร์ดี้ กลายเป็นคนละคนไปเสียแล้ว
(ยังมีต่อ)
"คาร์ฟอร์แคช" ผู้นำตลาดสินเชื่อเพื่อคนมีรถ เดินหน้าแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของเหล่าผู้ปกครองด้วย 'คาร์ฟอร์แคช พร้อมใช้' ที่มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0.56% ต่อเดือนสำหรับสินเชื่อมอเตอร์ไซค์และบิ๊ก ไบค์ และดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.69% ต่อเดือนสำหรับสินเชื่อรถยนต์* ตอบโจทย์ผู้ปกครองที่มองหาสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม อุปกรณ์การเรียน หรือชุดนักเรียนใหม่ ในช่วงเปิดเทอมนี้ 'คาร์ฟอร์แคช พร้อมใช้' มาพร้อมกับการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก อนุมัติวงเงินสูง และ