"ITTHI" นับหนึ่งไฟลิ่ง จ่อขายไอพีโอ 70 ล้านหุ้น เข้าเทรด mai ปีนี้

01 Feb 2023

ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง "บมจ.อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น หรือ ITTHI" ยืนหนึ่งในธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าส่องสว่าง และอุปกรณ์ประเภท IET (Internet Every Thing) รวมทั้งผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ เดินหน้าเสนอขายไอพีโอ 70 ล้านหุ้น เข้าจดทะเบียนในตลาด mai ปีนี้ ระดมทุนเสริมโอกาสรองรับการเติบโตในอนาคต

"ITTHI" นับหนึ่งไฟลิ่ง จ่อขายไอพีโอ 70 ล้านหุ้น เข้าเทรด mai ปีนี้

นายกิตติชัย นาคะประเสริฐกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวาณิชธนกิจ 3 บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น หรือ ITTHI เปิดเผยว่า ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนของ ITTHI ที่ได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 70 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.93% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ในครั้งนี้ คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปี 2566 ในหมวดธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค

ITTHI ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าส่องสว่าง และอุปกรณ์ประเภท IET (Internet Every Thing หรือ IoE : Internet of Everything หรือ IoT : Internet of Things หรือ "อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง" หมายถึง การที่ทุกสิ่ง ถูกเชื่อมโยงด้วยอินเตอร์เน็ต ทำให้มนุษย์สามารถสั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันผ่านอินเตอร์เน็ต เช่น การเปิด-ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ เครื่องมือสื่อสาร เป็นต้น) และผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ

การประกอบธุรกิจของ ITTHI สามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าส่องสว่าง และอุปกรณ์ประเภท IET (Internet Every Thing) โดยบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ส่องสว่างประเภท หลอดไฟ โคมไฟ และส่วนควบอื่นๆ ด้วยเครื่องหมายการค้าในนาม "LIGHTTRIO" และแบรนด์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมทั่วไป

และธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อประเภทแอลกอฮอล์ โดยบริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อประเภทแอลกอฮอล์ ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการจดแจ้งการผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางประเภทแอลกอฮอล์เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือและผิวกาย ชนิดไม่ล้างออก ในลักษณะเจล สเปรย์ไม่อัดแก๊ส และของเหลว ในบรรจุภัณฑ์หลากหลายแบบและหลากหลายขนาด ภายใต้แบรนด์ "UNION CLEAN" รวมถึงการรับจ้างผลิตแบบ OEM แก่ลูกค้าที่สนใจทั่วไป

ด้วยจุดเด่นของ ITTHI บริษัทมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมากกว่า 24 ปี โดดเด่นใน TEAMWORK ทีมงานที่พร้อมให้บริการ CREATIVITY ความสร้างสรรค์ของผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม, FAST Logistics การจัดส่งที่รวดเร็ว, AFTER SERVICE บริการหลังการขายที่ดี, การพัฒนาการความรู้และความสามารถของทรัพยากรบุคคลของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ, การรักษาฐานลูกค้าเดิมให้เกิดการซื้อและใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทได้แก่ กลุ่มลูกค้าโครงการ กลุ่มลูกค้าขายส่ง กลุ่มลูกค้ารายย่อย และกลุ่มลูกค้าราชการ

นายธนเสฏฐ์ อัครบุญญาพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITTHI เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโต โดยมีเป้าหมายจะเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าส่องสว่าง พลังงานทดแทน อุปกรณ์เทคโนโลยีอัจฉริยะ บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้เข้ากับทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของคนทุกเพศทุกวัย เพื่อทำให้ทุกสถานที่ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิต ประหยัดพลังงาน มีบรรยากาศที่สวยงามและมีความปลอดภัย โดย ITTHI จะร่วมแบ่งปันความสุขความประทับใจผ่านแสงสว่างในราคาที่ทุกคนจับต้องได้ และยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักลงทุนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดความสำเร็จของ ITTHI

วัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ และในกรณีที่ระยะเวลาเหมาะสม หรือเกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจการ ภายในปี 2566-2567 รองรับการเติบโตของ ITTHI เพิ่มความน่าเชื่อถือรวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

สำหรับผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าส่องสว่าง เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวโยงกับอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งฐานลูกค้าหลักของบริษัท ได้แก่ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย เช่น คอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรร รวมถึง อาคารทุกประเภท เช่น ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โชว์รูม ร้านค้า ร้านอาหาร โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล โรงแรม โรงเรียน คลังสินค้า สนามบิน รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วไปที่ต้องการเปลี่ยนมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีกว่า ประหยัดพลังงานมากกว่า หรือมีรูปแบบสวยงามกว่า และการซื้อเพื่อทดแทนของเดิมที่ชำรุดหรือหมดอายุ ดังนั้น การเติบโตและการเปิดตัวโครงการใหม่ของผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวจึงเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อการขยายตัวของผลประกอบการของบริษัทในฐานะที่บริษัทดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โคมไฟฟ้าแสงสว่างอย่างครบวงจร

ส่วนผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อประเภทแอลกอฮอล์ของบริษัทส่วนใหญ่เป็นการจำหน่ายแก่ลูกค้าปลายทาง ซึ่งเป็นผู้ใช้โดยตรงเนื่องจากในปัจจุบันมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงได้สะดวกรวดเร็ว ซึ่งอุตสาหกรรมของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ("COVID-19") ในช่วงปี 2563 แต่ ณ ปัจจุบัน อุตสาหกรรมดังกล่าวต้องเผชิญการแข่งขันที่สูงขึ้นจากอุปทานของผู้ผลิตในตลาดที่เข้าสู่อุตสาหกรรมในจำนวนที่มากขึ้น

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562 - 2564) กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 186.28 ล้านบาท 231.21 ล้านบาท และ 216.02 ล้านบาท ตามลำดับ และสำหรับงวด 9 เดือนแรกปี 2564 และปี 2565 เท่ากับ 99.79 ล้านบาท และ 99.42 ล้านบาท ตามลำดับ โดยบริษัทมีรายได้หลักจากการจัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 73.78 - 99.24 ของรายได้รวม และรายได้จากการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ซึ่งประกอบด้วย แอลกอฮอล์ชนิดน้ำและชนิดเจล ซึ่งบริษัทได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายจากคู่ค้าในแบรนด์ UNIONCLEAN โดยบริษัทมีรายได้จากการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 1.60 - 25.58 ของรายได้รวมมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.83 ล้านบาท 18.49 ล้านบาท 15.04 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 3.66 ร้อยละ 8.00 และร้อยละ 6.96 ตามลำดับ และในงวด 9 เดือนปี 2564 และ 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 5.56 ล้านบาทและ 10.96 ล้านบาทตามลำดับ โดยสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มธุรกิจสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ตามแนวโน้มของภาพรวมของธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องภายหลังสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่อนคลายลงเป็นหลัก