MTW เปิดแผนธุรกิจหลังนำหุ้นเข้าตลาด mai ทุ่มงบลงทุน 210 ล้านบาท ลุยรถจักรยานยนต์ EV เต็มสูบ

22 Dec 2022

MTW เปิดแผนธุรกิจ หลังนำหุ้นเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เรียบร้อยแล้ว ทุ่มงบ 210 ล้านบาท ลุยธุรกิจรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้การดำเนินงานของบริษัทย่อย "เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี" เจ้าของแบรนด์ DECO ขานรับนโยบายรัฐ ส่วนลด 18,000 บาท จดทะเบียนได้ตามกฎหมาย ด้านหัวเรือใหญ่ "กฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์" ตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโต 30-40%

MTW เปิดแผนธุรกิจหลังนำหุ้นเข้าตลาด mai ทุ่มงบลงทุน 210 ล้านบาท ลุยรถจักรยานยนต์ EV เต็มสูบ

นายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมคทูวิน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTW ผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้เครื่องหมายการค้า DECO เปิดเผยว่าแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ หลังเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เรียบร้อยแล้ว จะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนดังกล่าวไปใช้สำหรับลงทุนในกิจการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยการเพิ่มทุนในบริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด จำนวน 210 ล้านบาท ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนเป็น 340 ล้านบาทและชำระจำนวนเต็มเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำไปใช้ 1.ชำระหนี้สถาบันการเงิน 72 ล้านบาท 2.ชำระค่าก่อสร้างอาคารโรงงานและสำนักงาน 53 ล้านบาท 3.ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ 60 ล้านบาท 4.ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

ทั้งนี้ในเดือนกันยายน ที่ผ่านมา บริษัทเดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ซื้อที่ดินพร้อมอาคารจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ จำนวน 90.69 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน จำนวน 72.00 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นเงินกู้ยืมจาก MTW และในช่วงไตรมาส 1/2566 บริษัทดังกล่าวมีแผนที่จะก่อสร้างอาคารโรงงานและสำนักงานในที่ดินดังกล่าว จำนวน 53 ล้านบาทและสั่งซื้อเครื่องจักรอุปกรณ์ จำนวน 60 ล้านบาท

"เดโก้ กรีนเอ็นเนอร์จี เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย มอไซค์ไฟฟ้ารายใหญ่และได้มาตรฐานอุตสาหกรรมที่สำคัญถือเป็นผู้ประกอบอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ที่เข้าร่วมมาตรการฯ โดยจะได้สิทธิประโยชน์จากภาษีสรรพสามิตอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 1 และเงินอุดหนุนจำนวน 18,000 บาทต่อคันและวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า    เทรนด์ของยานยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความสนใจและสอดคล้องกับเป้าหมายการทำธุรกิจของเราที่นอกจากจะได้สร้างงานสร้างอาชีพ ยังเป็นส่วนหนึ่งของการลดมลภาวะโดยเฉพาะค่าฝุ่น PM 2.5 และนี้คือแนวทางของ MTW ที่พร้อมจะก้าวไปพร้อมกันสู่การสร้างถนนสีเขียวและขานรับเป้าหมายของประเทศเพื่อมุ่งสู่การสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน" นายกฤตเมธ กล่าว

นอกจากนี้ในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 30-40% จากปี 2565 ที่คาดว่าจะทำได้มากกว่าปี 2564 ที่มีรายได้อยู่ที่  214.17 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูปและธุรกิจผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้าและตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่หลากหลายและลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขายส่งเสื้อผ้าที่มีฐานลูกค้าในมือจำนวนมาก ผู้ประกอบการดังกล่าวสามารถช่วยกระจายสินค้าไปยังลูกค้าปลายทางให้แก่บริษัท จึงมีนโยบายรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว

"หลังจากที่เข้าระดมทุนในตลาด mai จะขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จะทำให้มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายจากเดิมที่มีช่องทางการจำหน่ายหลักผ่านโรงงานและหน้าร้าน เป็นสาขาของบริษัท จำนวน 3 แห่ง ที่ตั้งเป็นศูนย์กลางของผู้ประกอบการค้าปลีกบริเวณตลาดโบ๊เบ๊และประตูน้ำเป็นหลัก ศูนย์รวมของกลุ่มผู้ประกอบการขายส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปทั่วภูมิภาคของไทยและยังเป็นทำเลที่ผู้ประกอบการเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศนิยมแวะเวียนมาซื้อสินค้าและส่งออกสินค้าไปขายยังประเทศของลูกค้าเหล่านั้น บริษัทยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านโรงงาน ลูกค้าสั่งซื้อผ่านทางโทรศัพท์ E-Mail หรือ Line และยังมีการนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ผ่านทางหน้าเว็บไซด์ www.maketowin.com ที่ปรับปรุงข้อมูลผลิตภัณฑ์ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอและจะออกแบบเสื้อผ้าให้มีความทันสมัยมากขึ้นด้วย" นายกฤตเมธ กล่าว

สำหรับโรงงานผลิตมีจำนวน 1 แห่ง ตั้งอยู่ที่จ.นครปฐม เนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 12,000 ตารางเมตร มีเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่รวมกันกว่า 63 เครื่อง แบ่งเป็นเครื่องจักรเย็บจำนวนกว่า 27 เครื่อง และเครื่องจักรอื่นๆ จำนวนกว่า 36 เครื่อง นอกจากเครื่องจักรเหล่านี้แล้ว ยังมีอุปกรณ์เสริมเครื่องจักรเย็บ สามารถช่วยปรับเครื่องจักรให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับรูปแบบของผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น ปัจจุบันมีกำลังการผลิตทั้งสิ้นประมาณ 1.8 ล้านตัวต่อปี ในส่วนของธุรกิจผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้า ดำเนินการโดย บริษัท เดโก้ กรีน เอเนอร์จี จำกัด  บริษัทย่อยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้า DECO โดยจำแนกตามรูปแบบการใช้งานและสมรรถนะของเครื่องยนต์เป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ 1.แบบจักรยานไฟฟ้า (Electric Bicycles) 2.รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบครอบครัว (Classic Electric Motorcycles) จำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นเครื่องยนต์น้อยกว่า 1,000 w และรุ่นเครื่องยนต์มากกว่า 1,000 w 3.รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบสปอร์ต (Sport Electric Motorcycles) และ 4.รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ (Commercial Electric Motorcycles) ใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เข้ามาเป็นระบบขับเคลื่อนหลังเครื่องยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าตั้งแต่ 3,000 W 

เดโก้ มีช่องทางการจำหน่ายและกระจายสินค้าผ่านตัวแทนทั่วภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ จำนวนทั้งสิ้น 91 ราย เช่น เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต นครราชสีมาและขอนแก่น ในขณะที่การจำหน่ายโดยตรงไปยังลูกค้า จะเป็นลักษณะการจำหน่ายแก่ลูกค้าที่มีปริมาณการซื้อจำนวนมาก เช่น การจำหน่ายไปยังลูกค้าหน่วยงานภาครัฐและการผลิตตามคำสั่งซื้อ ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก ด้วยประโยชน์ของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับรถจักรยานยนต์ทั่วไป สามารถจดทะเบียนขับขี่มอเตอร์ไซค์ตามท้องถนนได้ถูกต้องตามกฎหมายและได้รับมาตรการสนับสนุนส่วนลด 18,000 บาทจากภาครัฐ สามารถผ่อนสบายกับสถาบันการเงินชั้นนำ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำหรับการซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ากับ DECO

MTW เปิดแผนธุรกิจหลังนำหุ้นเข้าตลาด mai ทุ่มงบลงทุน 210 ล้านบาท ลุยรถจักรยานยนต์ EV เต็มสูบ