ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของบ. เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ที่ 'A(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

19 Dec 2022

ธันวาคม 2565: บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ที่ 'A(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ที่ 'F1(tha)'

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตสะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัท: อันดับเครดิตภายในประเทศของ ASP สะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ (franchise) ที่แข็งแรงและรูปแบบการทำธุรกิจของบริษัทที่หลากหลาย (diversified business model) ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์รายอื่นแม้ภาวะอุตสาหกรรมธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศไทยจะมีการแข่งขันสูงและมีผู้ประกอบการจำนวนมาก (fragmented industry) นอกจากนี้อันดับเครดิตของ ASP ยังสะท้อนถึงผลประกอบการของบริษัทที่ค่อนข้างสม่ำเสมอตลอดช่วงวัฎจักรที่ผ่านมาในอดีตของอุตสาหกรรม รวมทั้งการมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในด้านฐานะเงินทุนและสภาพคล่องที่อยู่ในระดับพอเพียง และฟิทช์คาดว่าจะยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องในระยะปานกลง

เครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ที่แข็งแรงและมีธุรกิจหลากหลาย: ASP มีเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศที่แข็งแรง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้ารายย่อย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ ASP ยังคงสามารถรักษาอัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมได้ต่อเนื่อง แม้จะมีภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ASP ยังมีการกระจายการดำเนินงานไปในธุรกิจที่หลากหลาย เช่น ธุรกิจบริหารทรัพย์สิน ธุรกิจลงทุน และธุรกิจวานิชธนกิจและตลาดทุน ซึ่งน่าจะช่วยสนับสนุนการกระจายตัวของรายได้และความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ทั้งนี้ ASP มีรายได้ที่ไม่ได้มาจากธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ที่เฉลี่ยประมาณ 53% ของรายได้รวมในช่วงปี 2561-ไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ประมาณ 44%

อัตรากำไรดีกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม: ความสามารถในการแข่งขันของ ASP น่าจะช่วยให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีกว่าอุตสาหกรรมได้ต่อเนื่องในระยะปานกลาง แม้ว่าอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ยของ ASP อาจมีการปรับตัวลดลงมาบ้างและอยู่ที่ 10% สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 จากระดับสูงสุดที่ 25.1% ในปี 2564 เนื่องจากผลขาดทุนจากเงินลงทุนและรายได้จากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ลดลง จากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดที่ปรับตัวลดลง 13.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่อย่างไรก็ตามอัตราส่วนดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับผลการดำเนินงานในอดีตของบริษัทและสอดคล้องกับอันดับเครดิต ณ ปัจจุบัน

อัตราส่วนหนี้สินปรับสูงขึ้นแต่ยังคงบริหารจัดการได้: โครงสร้างเงินทุนและระดับหนี้สินของ ASP ยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ณ อันดับเครดิตปัจจุบัน อย่างไรก็ตามสัดส่วนหนี้สินของบริษัทได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2563 จากสินเชื่อเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากภาวะตลาดที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน โดยอัตราส่วน net adjusted leverage ratio ได้ปรับตัวสูงขึ้นอีกเป็น 3.1 เท่า ณ สิ้นงวด 9 เดือนแรกปี 2565 จาก 1.4 เท่า ณ สิ้นปี 2562 แต่อย่างไรก็ดีฟิทช์ไม่คาดว่าอัตราส่วน net adjusted leverage ratio ดังกล่าวจะปรับตัวเพิ่มอีกอย่างมากจากระดับปัจจุบัน เนื่องจากภาวะตลาดที่ซบเซาลงน่าจะช่วยชะลอการเติบโตสินทรัพย์ของบริษัท

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
ฟิทช์อาจปรับลดอันดับเครดิตของ ASP หากอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญของบริษัทปรับตัวลดลงอย่างมากและเกินกว่าการคาดการณ์ของฟิทช์และแย่กว่าแนวโน้มอุตสาหกรรม เช่นการที่บริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ยต่ำกว่า 7% เป็นระยะเวลาต่อเนื่องอาจส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากประกอบกับการที่บริษัทมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในด้านของเงินทุนที่ด้อยลงและต่อเนื่องเมื่อเทียบกับความเสี่ยงในด้านรายได้และความเสี่ยงด้านฐานะทางการเงิน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้อาจบ่งชี้ถึงแรงกดดันในระยะยาวต่อความสามารถในการแข่งขันของบริษัท ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงลบในระดับที่มากกว่าคาดการณ์ต่อความสามารถในการทำกำไรหรือจุดอ่อนที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ในด้านเครือข่ายธุรกิจหรือการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายของบริษัท ซึ่งยังไม่ได้พิจารณารวมไว้ในการประเมินอันดับเครดิตปัจจุบันของบริษัท

นอกจากนี้การปรับตัวด้อยลงของฐานะสภาพคล่องของ ASP ซึ่งอาจวัดได้จากอัตราส่วนสภาพคล่องต่อเงินกู้ระยะสั้น อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตได้เช่นกัน

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
อันดับเครดิตภายในประเทศของ ASP ปัจจุบันอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงแล้วเมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์อื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยใช้ฐานะทางการเงินของตัวบริษัทเองในการพิจารณาอันดับเครดิต ดังนั้นโอกาสที่จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับในระยะสั้นนั้นมีค่อนข้างจำกัด ทั้งนี้อันดับเครดิตภายในประเทศอาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับในระยะยาวได้ หากเครือข่ายธุรกิจของ ASP ปรับตัวแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกซึ่งรวมถึงธุรกิจอื่นที่นอกเหนือจากธุรกิจหลักทรัพย์ด้วย จนส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากธุรกิจที่มีความมั่นคงและเป็นรายได้ประจำ (recurring) ในสัดส่วนที่สูงขึ้นโดยไม่มีความเสี่ยงด้านฐานะทางการเงินเพิ่มขึ้นมากนัก แต่ทั้งนี้จะพิจารณาประกอบกับการที่บริษัทยังคงสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรในระดับที่สูงกว่าบริษัทหลักทรัพย์อื่น พร้อมทั้งยังคงมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในระดับที่แข็งแรงในด้านเงินทุนและสภาพคล่อง

หุ้นกู้และตราสารหนี้อื่น: ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของ ASP ได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ ASP เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของบริษัท

รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้:

  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ A(tha) แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ F1(tha)
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ A(tha)

ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com