ผงน้ำตาลเกลือแร่ RO-ORS ซองเล็กๆ ช่วยชีวิตเด็กและมนุษย์นับล้านจากอาการท้องร่วงเฉียบพลัน 29 กรกฎาคม วันสถาปนา "โออาร์เอสโลก"

26 Jul 2022

ORS ย่อมาจาก Oral Rehydration Salts คือ ผงน้ำตาลเกลือแร่สูตรมาตรฐาน มีกระบวนการผลิตไม่ซับซ้อน  เป็นยาพื้นฐานที่มีความปลอดภัยสูงซึ่งเด็กเล็กสามารถดื่มเพื่อรักษาอาการท้องเสียได้  โดยองค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) ได้ประมาณว่าก่อนที่จะมีการใช้ผงน้ำตาลเกลือแร่ในการรักษา  เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีทั่วโลกป่วยเป็นโรคอุจจาระร่วงและเสียชีวิตราว 5 ล้านคนต่อปี แต่ภายหลังจากการใช้ผงน้ำตาลเกลือแร่รักษา สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ปีละมากกว่า 3 ล้านคน ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากในการช่วยชีวิตผู้ป่วยจากการสูญเสียน้ำและเกลือแร่1 ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของ ORS และเพื่อป้องกันการเสียชีวิตจากโรคท้องร่วงเฉียบพลันและการสูญเสียน้ำ จึงมีการสถาปนาวัน ORS โลก หรือ World ORS Day ขึ้น ในวันที่ 29 กรกฎาคม ของทุกปี2

ผงน้ำตาลเกลือแร่ RO-ORS ซองเล็กๆ ช่วยชีวิตเด็กและมนุษย์นับล้านจากอาการท้องร่วงเฉียบพลัน 29 กรกฎาคม วันสถาปนา "โออาร์เอสโลก"

โรคท้องร่วงเฉียบพลัน เป็นโรคที่พบได้บ่อยทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ จากข้อมูลสถิติโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในปี พ.ศ. 2564 ยังมีผู้ป่วยโรคท้องร่วงเฉียบพลันโดยประมาณ 500,000 ราย จากประชากร 66 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป รองลงมา คือ กลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 4 ปี และผู้ที่มีอายุ 25-34 ปี3  ซึ่งการเจ็บป่วยย่อมทำให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจไม่น้อย โดยเฉพาะรายที่มีภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล  แม้ว่าโรคท้องร่วงเฉียบพลันจะเป็นโรคที่ไม่รุนแรง แต่หากรักษาไม่ทันท่วงทีย่อมทำให้เกิดภาวะขาดน้ำและสูญเสียสมดุลแร่ธาตุ ที่เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต  ดังนั้น "การป้องกันและรักษาภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ที่ถือเป็นมาตรฐานของการรักษาโรคท้องร่วงเฉียบพลัน จึงเป็นการใช้สารละลายของผงน้ำตาลเกลือแร่สูตรมาตรฐาน หรือ ORS ได้รับการรับรองและแนะนำโดยองค์การอนามัยโลกและองค์การยูนิเซฟ"

ทำไมต้องระวังและเลือกใช้เกลือแร่รักษาอาการท้องเสียให้ถูกต้อง?

หลายคนมักเข้าใจผิดว่าหากท้องเสียแต่ไม่มี ORS สามารถใช้น้ำอัดลมเติมเกลือ หรือ เกลือแร่สำหรับออกกำลังกาย (sport drinks) หรือน้ำผลไม้ แทนได้  ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด!!!  เนื่องจากเครื่องดื่มประเภทนี้ไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ในผู้ป่วยท้องเสีย  เพราะมีค่าความเข้มข้นของสารละลายสูง (ค่า osmolarity) และมีเกลือแร่ต่ำ ไม่เพียงพอต่อการทดแทนการสูญเสียเกลือแร่ทางลำไส้ได้  อีกทั้งมีน้ำตาลในปริมาณสูงจึงส่งผลให้สูญเสียน้ำทางลำไส้ได้มากขึ้นและทำให้อาการท้องเสียแย่ลงได้  ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จึงแนะนำให้ "จิบเกลือแร่ ORS ห้ามใช้เกลือแร่สำหรับออกกำลังกาย ในการรักษาอาการท้องเสีย"4

ORS ที่ใช้ในปัจจุบันมี 2 ชนิด คือ WHO-ORS และ RO-ORS  อย่างไรก็ตาม WHO-ORS จะมีความเข้มข้นของโซเดียม และกลูโคสค่อนข้างสูง ทำให้มีความเข้มข้นของสารละลาย 311 mOsm/L (ค่า osmolarity) ซึ่งอาจสูงเกินไปสำหรับผู้ป่วยบางราย เมื่อรับประทานเข้าไปจะยิ่งดูดซึมน้ำ ทำให้ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำมากขึ้นได้  จึงได้มีการพัฒนาสูตรตำรับผงน้ำตาลเกลือแร่ให้มีประโยชน์และความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นเป็นสูตร RO-ORS หรือ Reduced Osmolarity ORS Solution ซึ่งมีการปรับความเข้มข้นของโซเดียม กลูโคส และคลอไรด์ให้ต่ำลง ทำให้ได้ความเข้มข้นเท่ากับ 245 mOsm/L  ซึ่งจากรายงานการวิจัยพบว่า RO-ORS ช่วยลดปริมาณอุจจาระลง 20% ลดการอาเจียนลง 30% ลดการรักษาด้วยสารน้ำทางหลอดเลือดลง 40% และช่วยลดโอกาสที่ผู้ป่วยต้องเข้ารักษาตัวในสถานพยาบาล รวมทั้งลดอัตราการตายได้ เมื่อเทียบกับ WHO-ORS อย่างมีนัยสำคัญ จึงนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกตั้งแต่ปี ค.ศ.2006 โดยแนะนำให้ใช้สูตร     RO-ORS เป็นสูตรผงน้ำตาลเกลือแร่มาตรฐาน สำหรับการรักษาท้องร่วงเฉียบพลันในผู้ป่วยทุกกลุ่มอายุและทุกสาเหตุของการท้องเสีย5

เนื่องจากความเข้มข้นของ RO-ORS เป็นสิ่งสำคัญต่อประสิทธิภาพการรักษา วิธีการผสมที่ถูกต้อง คือ เทผง RO-ORS ลงในน้ำดื่มสะอาดตามปริมาตรที่ระบุบนซอง  เพื่อให้ได้ความเข้มข้นที่เหมาะสม คนจนละลายหมด และต้องค่อยๆ จิบจนไม่รู้สึกกระหายน้ำ ไม่แนะนำให้ดื่มหมดในคราวเดียว และหยุดดื่มเมื่อหายจากอาการท้องเสีย  โดยไม่ควรเก็บสารละลายผงน้ำตาลเกลือแร่ที่ดื่มไม่หมดเกิน 24 ชั่วโมง และควรเก็บสารละลายผงน้ำตาลเกลือแร่ที่ผสมแล้วในภาชนะที่ปิดสนิทเพื่อลดโอกาสการปนเปื้อน6

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าการรักษาผู้ป่วยโรคท้องร่วงเฉียบพลันโดยการใช้ผงน้ำตาลเกลือแร่  ถือเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงและมีราคาถูก สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยที่ขาดเกลือแร่และน้ำจากโรคท้องร่วงเฉียบพลันหรืออาการท้องเสียได้เป็นอย่างดี และลดโอกาสที่ต้องนอนให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดที่โรงพยาบาล เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการรักษา โดยผู้ป่วยและครอบครัวสามารถดูแลรักษาอาการได้ด้วยตนเอง รวมถึงมีความปลอดภัยในการนำไปใช้รักษาในเด็กเล็กอีกด้วย  ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ว่า "RO-ORS เป็นยาช่วยชีวิต (Life Saving Drug) แม้จะเป็นผงน้ำตาลเกลือแร่ซองเล็กๆ แต่ก็มีคุณประโยชน์ใหญ่หลวงต่อมวลมนุษยชาติ"

ข้อมูลอ้างอิง

  1. มหาวิทยาลัยมหิดล. ประกาศผล การตัดสินรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2549 [online]. Available from : https://old.mahidol.ac.th/th/reward/15.htm
  2. Jayashree. World ORS Day 2021: "Oral Rehydration, No More Dehydration" [online]. 2021. Available from : https://www.medindia.net/news/healthwatch/world-ors-day-2021-oral-rehydration-no-more-dehydration-202496-1.htm
  3. สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. รายงานโรคในระบบเฝ้าระวัง 506 : Diarrhoea [online]. Available from : http://192.168.100.12/boedb/d506_1/ds_wk2pdf.php?ds=02&yr=64
  4. FDA Thai. ท้องเสีย จิบเกลือแร่สำหรับคนท้องเสีย อย่า... จิบเกลือแร่สำหรับนักกีฬา [online]. Available from : https://www.facebook.com/FDAThai/posts/1010316532368842:0
  5. วรนุช จงศรีสวัสดิ์. ประโยชน์ของสารละลายเกลือแร่ (โออาร์เอส) ในการรักษาโรคท้องร่วงเฉียบพลัน. วารสารสมาคมเภสัชกรรมชุมชน 2564;117: 43-8
  6. ธีรัตถ์ เหลืองมั่นคง. น้ำเกลือแร่สำหรับท้องเสีย: เลือกที่ใช่ ใช้ถูกต้อง [online]. 2020. Available from : https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/529/น้ำเกลือแร่-ท้องเสีย