ไทยวาเผยกำไรไตรมาสแรกปี 65 โต 30% เดินหน้าขนวัตกรรมเกษตร-อาหาร ขับเคลื่อนตลาดโลกอย่างยั่งยืน

11 May 2022

บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ผู้นำแพลตฟอร์มผลิตผลทางการเกษตรและผู้ผลิตมันสำปะหลังรายใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยผลประกอบการไตรมาสแรกเติบโตแข็งแกร่งสวนกระแสเศรษฐกิจ ด้วยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 30% พร้อมเป็นตัวแทนภูมิภาคนำทัพสินค้าเกษตรและอาหารบุกตลาดโลก โดยใช้นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อน ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลประกอบการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักได้ในปี 2565

ไทยวาเผยกำไรไตรมาสแรกปี 65 โต 30%   เดินหน้าขนวัตกรรมเกษตร-อาหาร ขับเคลื่อนตลาดโลกอย่างยั่งยืน

ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่กำลังตึงเครียดและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC สามารถทำผลกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2565 ได้เพิ่มขึ้นถึง 30% โดยมียอดขายรวมทั่วโลกเพิ่มขึ้น 15% บริษัทมียอดขายเติบโตแข็งแกร่งในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยผลประกอบการที่ดีที่สุดมาจากตลาดหลัก ได้แก่ ไทย เวียดนาม จีน และสหรัฐอเมริกา สำหรับยอดขายรวมทั้งหมด 2,465 ล้านบาท แบ่งออกเป็นรายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง 1,321 ล้านบาท คิดเป็น 54% แป้งมันสำปะหลังดัดแปลงมูลค่าเพิ่ม 664 ล้านบาท (27%) และธุรกิจอาหาร 480 ล้านบาท (19%) สำหรับสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหาร มาจากตลาดในประเทศ 86% และตลาดต่างประเทศ 14% ทั้งนี้ TWPC เป็นบริษัทเกษตรและอาหารชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการดำเนินงานใน 5 ประเทศ โดยมีโรงงานและสำนักงานทั้งหมด 15 แห่ง มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ครอบคลุมทั้งผลิตภัณท์อาหารสำหรับผู้บริโภค ได้แก่ ผลิตภัณท์แป้งและส่วนผสมในการประกอบอาหาร ผลิตภัณฑ์วุ้นเส้น เส้นก๋วยเตี๋ยว และล่าสุดคือผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกจากแป้งมันสำปะหลังภายใต้แบรนด์ ROSECO

นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การออกแบบและพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดโลกที่มีความแข็งแกร่งและสมดุล คือกลยุทธ์หลักของบริษัทนับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดเมื่อเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา ในฐานะที่เราเป็นหนึ่งในบริษัทเกษตรและอาหารแบบครบวงจรจาก "ฟาร์มสู่ผู้บริโภค"ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่รายในภูมิภาค เราได้ทุ่มเทเวลาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่คุณค่าทั้งระบบของบริษัท โดยได้ดัดแปลงซัพพลายเชนให้เข้ากับท้องถิ่น และพัฒนาความสามารถของทีมขายให้พร้อมสำหรับตลาดโลก"

เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป บริษัทได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ของไทยวา คือ วุ้นเส้นพร้อมรับประทาน สามารถหาซื้อได้แล้วทั่วประเทศ และผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ซองลอง (Song Long) ซึ่งเป็นแบรนด์แฟลกชิปของบริษัทในเวียดนาม ก็เป็นผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นสำหรับผู้บริโภคที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค สำหรับผลิตภัณฑ์แป้งประกอบอาหารและส่วนผสมอาหารที่ขายให้กับกลุ่มธุรกิจนั้น บริษัทยังคงเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง แป้งดัดแปลง และแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิก ซึ่งคัดสรรวัตถุดิบมาจากหลายๆประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับไตรมาส 1 ปี 2565 บริษัทยังคงมีรายได้และผลกำไรเติบโต double digit และยังเป็นผลประกอบการไตรมาสแรกที่ดีที่สุดอีกด้วย ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการเร่งผลักดันให้บริษัทฯ ก้าวไปสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในกลุ่มผลิตภัณท์แป้งประกอบอาหาร และในปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดออฟฟิศร่วมกับพันธมิตรที่เมืองซานฟรานซิสโก นิวยอร์ก และลอนดอน เพื่อประกอบธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีอาหาร เทคโนโลยีการเกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพอีกด้วย

นายโฮ กล่าวว่า "ธุรกิจเกษตรและอาหารเป็นธุรกิจระดับโลก ความท้าทายเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาหารและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้เรามีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่จะต้องบริการลูกค้าทั่วโลกให้ได้เร็วขึ้นและดีขึ้น ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายและการทำตลาดทั่วโลกของเราเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงขึ้นมาก ปัจจุบันเราให้บริการลูกค้าในประเทศต่างๆ รวมถึงบริษัทชั้นนำระดับโลก และบริษัทอาหารที่ติดอันดับ Fortune 500 และเรายังเป็นหนึ่งในบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากพืชล้วนๆ จากฟาร์มจนถึงมือผู้บริโภค ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าทั่วโลก ทั้งผลิตภัณฑ์อาหาร ส่วนผสมและแป้งประกอบอาหาร การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน และธุรกิจใหม่ซึ่งเป็นวัสดุชีวภาพ"

ยิ่งไปกว่านั้น แพลตฟอร์มธุรกิจใหม่ของบริษัท คือ ไทยวา เวนเจอร์ ก็กำลังจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ 3 แห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีที่มีการเติบโตสูง ทั้งในกลุ่มเกษตรและอาหาร เทคโนโลยีชีวภาพ และดิจิทัลซัพพลายเชน