PLANET โชว์กำไรปี 64 โต 174.59% ลุ้นกำไรโตก้าวกระโดดตั้งแต่ปี65 หลังโครงการขยายการลงทุนคืบหน้าตามแผน

24 Feb 2022

PLANET โชว์กำไรปี 64 โต 174.59% หลังรักษาอัตรากำไรขั้นต้น-คุมต้นทุนดี "ประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์" มั่นใจแนวโน้มกำไรเติบโตต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 65 เป็นต้นไป มีลุ้นกำไรโตก้าวกระโดด หลังโครงการขยายการลงทุนคืบหน้าตามแผน

PLANET โชว์กำไรปี 64 โต 174.59% ลุ้นกำไรโตก้าวกระโดดตั้งแต่ปี65 หลังโครงการขยายการลงทุนคืบหน้าตามแผน

นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET ผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลแบบครบวงจร  เปิดเผยว่า ผลจากการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ 6.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 174.59% จากปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 2.44 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2562 บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 1 ล้านบาท

โดยในปี 2564 บริษัทฯมีค่าใช้จ่ายทางการเงินรวมเท่ากับ 9.38 ล้านบาท ลดลงถึง 49.05% เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายการเงินอยู่ที่ 18.41 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการลดลงของดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระยะสั้นซึ่งบริษัทฯ ได้มีการชำระคืนเงินต้นแก่ธนาคาร อีกทั้งยังเกิดจากนโยบายการบริหารสภาพคล่องโดยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามการจ่ายชำระหนี้จากลูกค้า และนำมาชำระหนี้เงินกู้ยืมธนาคารเพื่อลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย"

ขณะที่ต้นทุนรวมในปี 2564 อยู่ที่ 298.55 ล้านบาท คิดเป็น 70.62% ของรายได้จากการขายสินค้าและบริการ และมีกำไรขั้นต้นที่ 29.38% ทั้งนี้ จะพบว่าจากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2564 สูงขึ้นจากปี2563 ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 24.37 %

นายประพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในปี 2564 แม้สถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้การลงทุนในโครงการใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนเกิดการชะลอตัว และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี จะส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้รวมลดลงถึง 28.20% จากปี 2563 และมีรายได้จากการดำเนินงาน 422.73 ล้านบาท ลดลง 29.08% เมื่อเทียบกับปี 2563 จากรายได้จากการขายสินค้ารวมถึงงานโครงการที่ลดลง 37.88%

แต่พบว่ารายได้จากการบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 เพิ่มขึ้น 12.32 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.62% จากการที่บริษัทฯ ได้เริ่มมุ่งเน้นการขายบริการ เช่น บริการให้เช่าอุปกรณ์ และบริการหลังการขายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการบำรุงรักษาอุปกรณ์เดิมและหลีกเลี่ยงการลงทุนเพิ่มเติมในยุคเศรษฐกิจชะลอตัว

นายประพัฒน์ กล่าวมั่นใจว่า แนวโน้มธุรกิจจะเริ่มเติบโตอย่างมั่นคงตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป หลังจากในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ตัดสินใจขยายกิจการและลงทุนใหม่ๆเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการด้านเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ ธุรกิจไปด้านเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (Internet of Things: IoT) นวัตกรรมด้านระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) แพลตฟอร์มข้อมูลเมือง (City Data Platform) ระบบเสาอัจฉริยะ (Smart Pole) และกลุ่มสินค้าด้านเทคโนโลยี 5G

นอกจากนี้ ขยายการลงทุนไปยังงานภาคธุรกิจด้านสาธารณูปโภค (Utilities) โดยได้จัดตั้ง บริษัทย่อย คือ บริษัท แพลนเน็ตยูทิลิตี้ จำกัด (PLANET-UT) ขึ้นมาเพื่อลงทุนในธุรกิจบริหารจัดการน้ำและไฟฟ้าตามแผนการดำเนินธุรกิจระยะยาว  รวมถึง ยังได้ขยายธุรกิจไปสู่เทคโนโลยีด้านกลุ่มระบบรักษาความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ Cyber Security โดยได้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ชื่อ บริษัท แพลนเน็ต ไซเบอร์ จำกัด เพื่อประกอบกิจการ ซื้อ ขาย ออกแบบ ติดตั้ง และให้บริการหลังการขาย ผลิตภัณฑ์ทางด้านระบบการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่ภาครัฐ และภาคเอกชน

และล่าสุด บริษัทฯได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท ซิลิคอน เทคโนโลยี่ พาร์ค จำกัด เพื่อการก่อสร้างและพัฒนาโครงการศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีขั้นสูงบ้านฉาง หรือ EEC SILICON TECH PARK  มูลค่ารวม 5 พันล้านบาท โดยบริษัทฯ จะมีรายได้จากค่าดำเนินการในการบริหารโครงการร้อยละ 10 ของมูลค่าโครงการ

" ขณะนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับการขยายการลงทุนและการดำเนินธุรกิจที่มาจากการลงทุนใหม่ๆ โดยจะดำเนินควบคู่ไปกับการรักษารายได้จากการจำหน่ายสินค้าและบริการเดิมด้านโทรคมนาคม และเพิ่มยอดขายด้วยโซลูชัน New S-Curve เพื่อเจาะตลาดกลุ่มใหม่ ซึ่งจากการขยายกิจการและลงทุนใหม่ๆดังกล่าวในข้างต้นถือว่ามีแนวโน้มได้ผลตอบรับที่ดี ทำให้มั่นใจว่าบริษัทมีโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต" นายประพัฒน์กล่าว

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit