ICHI เปิดงบปี 64 โตฝ่าวิกฤติ ปิดรายได้ 5,228.3 ลบ. ปันผล 0.50 บ./หุ้น วางเป้าปี 65 รายได้แตะ 6,500 ลบ. เตรียม Collab แบรนด์ดัง - บุกตลาดใหม่

24 Feb 2022

อิชิตัน โชว์งบปี 64 เติบโตสู้วิกฤติ ทำกำไรที่ 546.8 ลบ. รายได้จากการขาย 5,228.3 ลบ. ชูยอดขายในประเทศเติบโต โดยเฉพาะตลาด Traditional Trade จากกลุ่มเครื่องดื่มชาเขียวยอดนิยม ด้านธุรกิจ OEM รายได้พุ่งกว่า 73% ฟากอิชิตัน อินโดนีเซียเห็นกำไรเหนือคาดหมาย จากเครื่องดื่มกลุ่มชาไทยเป็นไฮไลท์ และเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.50 บ./หุ้น กำหนดจ่าย 23 พฤษภาคมนี้ ย้ำความมั่นใจ ปี 65 เตรียมเปิดตัวการ Collab สุดคูล กับแบรนด์ชั้นนำ และออกผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่ม CBD เดินหน้าขยายธุรกิจตามกลยุทธ์ 3N วางเป้าหมายรายได้ปีนี้แตะ 6,500 ล้านบาท

ICHI เปิดงบปี 64 โตฝ่าวิกฤติ ปิดรายได้ 5,228.3 ลบ. ปันผล  0.50 บ./หุ้น                                                  วางเป้าปี 65 รายได้แตะ 6,500 ลบ. เตรียม Collab แบรนด์ดัง - บุกตลาดใหม่

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยผลประกอบการงวดประจำปี 2564 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2564) มีกำไรสุทธิ 546.8 ล้านบาท เติบโต 6.1% จากปีก่อนอยู่ที่ 515.5 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้น 19.3% อัตรากำไรสุทธิ 10.5% ขณะที่รายได้จากการขาย 5,228.3 ล้านบาท เติบโต 2.5% จากปีก่อนอยู่ที่ 5,099.3 ล้านบาท ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการจ่ายปันผลเป็นเงินสด จากผลการดำเนินงานประจำปี 2564 และกำไรสะสม ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) วันที่ 6 พฤษภาคมนี้ จ่ายปันผลวันที่ 23 พฤษภาคม 2565

ภาพรวมธุรกิจในปี 2564 เป็นอีกปีที่ท้าทายและต้องพยายามอย่างหนักในการทำตลาดท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่มีการแพร่ระบาดตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมกำลังซื้อในประเทศ โดยอิชิตันพยายามยึดฐานที่มั่นด้วยการผลักดันสินค้าชาเขียวรสชาติที่ผู้บริโภคมั่นใจเพื่อครองความนิยมอันดับหนึ่ง ในขนาดและราคาที่เหมาะสม ประกอบกับการได้รับแรงหนุนบางส่วนในตลาด Traditional Trade จากมาตรการภาครัฐที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ จนสามารถมีผลการดำเนินงานที่เติบโตทั้งรายได้และกำไร

นอกจากนี้ ธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) มีรายได้เติบโตขึ้นถึง 73% จากความเชื่อมั่นของพาร์ทเนอร์ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ช่วยสนับสนุนอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ขณะที่อิชิตัน อินโดนีเซีย ประสบความสำเร็จ โดยรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่ 59 ล้านบาท เติบโตกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากความสำเร็จในสินค้าตระกูลชาไทย ซึ่งเป็นกลุ่ม Cash cow ที่สามารถผลักดันกำไรได้ในระดับที่ดี ด้วยความโดดเด่นของสินค้าและมีรสชาติที่แตกต่าง

สำหรับปี 2565 แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะกระทบต้นทุนการผลิตบ้าง แต่อิชิตันพยายามปรับแผนบริหารการผลิตเพื่อควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบ พร้อมวางเป้าหมายรายได้ปีนี้แตะ 6,500 ล้านบาท ตามกลยุทธ์ที่วางไว้ในการผลักดันสินค้าชาเขียวรสชาติยอดนิยมให้เป็นเรือธง ด้วยแผนการตลาดเชิงรุกไปยังผู้บริโภค และคาดว่าจะได้เห็นความร่วมมือ (Collaboration) กับแบรนด์ชั้นนำเพื่อตอกย้ำรสชาติที่ชัวร์ สดชื่นยืนหนึ่ง สร้างสีสันให้ตลาดคึกคัก ภายในไตรมาส 2/65

นอกจากนี้ เดินหน้าเติบโตภายใต้กลยุทธ์ 3N (New Product, New Market และ New Business) โดย New product ที่คาดจะเห็นความชัดเจน คือ การเข้าไปบุกตลาดเครื่องดื่มกัญชง หรือ CBD ที่กำลังเป็นที่จับตามองหลังกฎหมายเริ่มเปิดกว้างขึ้นตามขั้นตอน และการเข้าไปเจาะตลาด Carbonated soft drink (CSD) ที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมของเครื่องจักรในโรงงานขั้นสุดท้าย เพื่อออกเครื่องดื่มใหม่สุดอินเทรนด์ นับเป็นความคืบหน้าในการขยายไปยัง New Category และ New Segment เข้าสู่ตลาดใหม่ที่น่าจับตามอง

อีกทั้ง เพื่อผลักดันช่องทางการขาย Traditional Trade ให้ครอบคลุมมากขึ้น อิชิตันเตรียมออกแคมเปญเฉพาะกลุ่มกับพ่อค้าแม่ค้าที่ซื้อยกลังไปขายหน้าร้าน ควบคู่การเอาใจผู้บริโภคยุคใหม่ที่หันมาสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเดินหน้าสร้างการรับรู้ช่องทางการขายยกลังแบบออนไลน์ผ่าน https://ichitanoneshop.com/ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในช่องทางการขายออนไลน์ต่างๆ เพื่อเติบโตไปพร้อมกันในทุกช่องทาง

ด้าน New Business อิชิตันได้ประกาศการเข้าไปรุกธุรกิจใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เข้าลงทุนในบริษัท พรีดิกทิฟ จำกัด (Predictive) เพื่อนำ Big Data มาใช้เป็นหัวใจในการขับเคลื่อนธุรกิจทำการตลาดในเชิงวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภค และเตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ ทรานส์ฟอร์มสู่องค์กรดิจิทัลให้โตอย่างยั่งยืน

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit