ไทยยูเนี่ยนออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนครั้งที่ 2 ของปีในประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน

12 Nov 2021

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) "ไทยยูเนี่ยน" ผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลก ประสบความสำเร็จอีกครั้งในการออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท จำนวน 2 รุ่นประกอบด้วย รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.27% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.36% ต่อปี ให้กับผู้ลงทุนสถาบัน เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทที่ต้องการพัฒนาตลาดทุนเพื่อความยั่งยืนในประเทศไทยรวมถึงการดำเนินธุรกิจโดยมีเป้าหมายร่วมเพื่อความยั่งยืน หลังจากที่บริษัทได้ออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนชุดนี้อีกครั้ง

ไทยยูเนี่ยนออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนครั้งที่ 2 ของปีในประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน

การออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ของไทยยูเนี่ยน ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Blue Finance (การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อมหาสมุทร - และอุตสาหกรรมอาหารทะเลโดยรวม) นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการจัดอันดับจากดัชนี Seafood Stewardship Index (SSI) เป็นอันดับที่ 1 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน สำหรับการทำงานตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยองค์การสหประชาชาติ

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนชุดนี้ อยู่ที่ระดับ "A+" แนวโน้ม "บวก" เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งแสดงถึงสถานะทางการตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีความเข้มแข็งของไทยยูเนี่ยนในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารทะเลระดับโลกที่มีสถานะการเงินและธุรกิจที่แข็งแกร่งและมั่นคง

สำหรับหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนไม่เพียงแต่จะเป็นการต่อยอดความสำเร็จหลังจากที่บริษัทได้มีการออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนครั้งแรกในประเทศไทยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทางด้านโครงสร้างของหุ้นกู้ยังคงมีลักษณะทางการเงินแบบ Step up/ Step down โดยอ้างอิงถึงผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัท ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกันกับการออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนในครั้งแรก ภายใต้กรอบการเสนอขายตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัท (Thai Union's Sustainability-Linked Financing Framework) ซึ่งมี Sustainalytics เป็นผู้ชำนาญการอิสระ (Second Party Opinion) ซึ่งเป็นองค์กรภายนอกที่ทำหน้าที่ประเมินกรอบการเสนอขายตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ไทยยูเนี่ยนดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange(R) โดยมีโครงการต่างๆ ที่ผลักดันด้านความยั่งยืนมาโดยตลอด และเพื่อตอบรับกับทางภาครัฐที่ได้มีการออกกฎเกณฑ์เพื่อสนับสนุนบริษัทเอกชนไทยในด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน เรามีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเรื่องการเงินเพื่อความยั่งยืนในตลาดทุนในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนไทยยูเนี่ยนและพันธกิจในการทำงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป"

ไทยยูเนี่ยนได้ตัดสินใจออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนในรุ่น 5 และ 10 ปีครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนรายใหม่ๆ และเป็นการสร้างเส้นอัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัท โดยเป็นอัตราดอกเบี้ยของรุ่น 5 และ 10 ปีที่เสนอขายครั้งนี้ และอัตราดอกเบี้ยของรุ่น 7 ปีที่เสนอขายไปในเดือนกรกฎาคม 2564

"การเสนอขายหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัทในครั้งนี้ได้มีจำนวนยอดจองซื้อมากกว่า 10,000 ล้านบาท หรือ มากกว่า 2 เท่า สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อธุรกิจและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของไทยยูเนี่ยน รวมถึงความตั้งใจที่จะลงทุนในด้านความยั่งยืน ซึ่งไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญกับการทำงานด้านความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นนักลงทุนรายใหม่ได้เข้าร่วมการออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนในครั้งนี้ โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เพิ่มเติมจากนักลงทุนที่เป็นกองทุนจากภาครัฐ และกลุ่มบริษัทประกันชีวิต" นายธีรพงศ์กล่าวเสริม

นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "กรุงศรีในฐานะพันธมิตรและที่ปรึกษาด้านการเงินมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ไทยยูเนี่ยนประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนอีกครั้งในปีนี้ นับได้ว่าเป็นหนึ่งในองค์กรต้นแบบที่มุ่งมั่นในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ยังสะท้อนความมุ่งมั่นตั้งใจของกรุงศรีในการขับเคลื่อนสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืนด้วยเช่นกัน โดยที่ผ่านมาธนาคารให้ความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมทางการเงินเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านความยั่งยืนในทุกมิติ จนถึงวันนี้ถือได้ว่ากรุงศรีเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินชั้นนำที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อความยั่งยืน ซึ่งกรุงศรียังคงให้คำมั่นว่าจะยังคงให้ความสำคัญในเรื่องนี้ดังกล่าวนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเป็นหนึ่งกลไกที่ช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของประเทศไทยต่อไป"

นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความเห็นว่า "การระดมทุนด้วยหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือเป็นระดมทุนที่ตอบโจทย์แนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ยังเห็นโอกาสในช่วงที่ตลาดของอัตราดอกเบี้ย THOR เอื้ออำนวย จึงได้ทำธุรกรรมอนุพันธ์เพื่อเปลี่ยนต้นทุนดอกเบี้ยหุ้นกู้จากอัตราดอกเบี้ยคงที่ (fixed) เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอ้างอิง THOR ด้วย ซึ่งช่วยให้บริษัทบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ธปท. จึงขอขอบคุณ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยยูเนี่ยน ในความร่วมมืออย่างต่อเนื่องที่ส่งเสริมให้เกิดการใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง THOR อย่างแพร่หลาย รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือระดมทุนที่หลากหลายและนำไปสู่ความยั่งยืน"

เกี่ยวกับไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลกที่นำผลิตภัณฑ์อาหารทะเลคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ อร่อย และสร้างสรรค์ มาสู่ลูกค้าทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี

ปัจจุบัน ไทยยูเนี่ยนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าที่เก็บไว้ได้นานที่สุด โดยมียอดขายต่อปีเกินกว่า 132.4 พันล้านบาท (4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และแรงงานทั่วโลกกว่า 44,000 คน ที่ทุ่มเทให้กับการบุกเบิกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่สร้างสรรค์และยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Ruegen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอาหารภายใต้แบรนด์ UniQ(TM)BONE และ UniQ(TM)DHA และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพแบรนด์ ZEAvita.

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange(R) และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่ 7 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2563 ได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 2 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

เกี่ยวกับกรุงศรี
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในหกสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานถึง 76 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อรายย่อย การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 652 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 613 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 39 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 32,532 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 9.6 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)) อีกด้วย

กรุงศรีมีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ "แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต" โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น