บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด กับเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ คือการช่วยพาผู้นำองค์กรไทย ไปสู่ระดับมาตรฐานโลก กับคำถามจึงเกิดขึ้นว่าผู้นำองค์กรไทยจะเก่งในระดับสากลได้นั้นต้องดูจากอะไร และมีอะไรที่เป็นตัวชี้วัด
โดยในวันที่ 28 ตุลาคม 2564 งาน "2021 Thailand-World Leadership Connect" จัดโดยบริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด ได้ยกทัพผู้บริหาร และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกมาแลกเปลี่ยนเคล็ดลับแห่งความสำเร็จในการทำงานของผู้นำระดับสากล ยิ่งกว่านั้น ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด เผยผลสุขภาพการนำองค์กรของผู้นำองค์กรไทย เพื่อช่วยผู้นำองค์กรไทยปรับพฤติกรรม เสริมทักษะได้ทันกับโลกและโอกาสที่กำลังจะมาถึง
ดร. สุทธิโสพรรณ ช่วยวงศ์ญาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า "สถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นทั่วโลก ถือเป็นตัวเร่งให้หลายองค์กรหันกลับมาพิจารณาถึงปัญหาที่แท้จริงที่องค์กรกำลังเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรใหญ่ กลาง เล็ก ภาครัฐหรือเอกชน วิกฤตในครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงวิกฤตโรคระบาด สุขภาพ สังคม เศรษฐกิจเท่านั้น แต่สิ่งที่ทุกแห่งกำลังเผชิญอยู่คือ วิกฤตความเป็นผู้นำ เพื่อก้าวไปข้างหน้าให้รอดอย่างยั่งยืนได้นั้น ผู้นำจำเป็นต้องถูกยกระดับ ทั้งความสามารถในการตอบสนองต่อโลกที่เปลี่ยนไป คว้าโอกาส เห็นความเสี่ยง จัดการกับความเร่งด่วน ลดผลกระทบทางธุรกิจจากวิกฤตให้น้อยที่สุด เราเชื่อว่าการใช้ข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยให้การพัฒนาเป็นไปอย่างถูกจุดและได้ผลลัพธ์เร็ว กว่า 16 ปีที่เราสั่งสมข้อมูลการพัฒนาผู้นำไทย ถึงเวลาที่เราต้องใช้ข้อมูลเหล่านี้มาเป็นตัวช่วยเร่งการพัฒนาผู้นำองค์กรไทยไปสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน"
กว่า 2 ปีติดต่อกันที่บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด ตั้งทีมเก็บข้อมูลแบบ Real Time ถึงคุณลักษณะสำคัญของผู้นำองค์กรไทย ในการพาองค์กรไทยไปสู่ระดับโลก โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมมากว่า 9 ปี จากผู้ตอบแบบประเมิน 10,949 คน ในการประเมินศักยภาพความเป็นผู้นำไทย ของผู้นำองค์กรทั้งสิ้น 1,110 คน จาก 115 องค์กรชั้นนำในเมืองไทย เปรียบเทียบกับผู้นำทั่วโลก 122,767 คน ภายใต้คุณลักษณะหลัก (Persona) ของผู้นำองค์กรไทย 6 Persona ที่เป็นคุณลักษณะเฉพาะสำหรับ "คนไทย" กับการก้าวสู่ "เวทีโลก"
ผลการสำรวจ Thailand Leadership Health Index 2021 พบคุณลักษณะที่เด่นที่สุดของผู้นำองค์กรไทยคือ นักสื่อสารผู้เข้าใจคน (Empathic Communicator) ประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ส่วนคุณลักษณะที่ได้คะแนนน้อยที่สุดคือ นักรบผู้พิชิตความสำเร็จ (Success Warrior)
หากเจอะลึกลงไปในรายละเอียดพบว่า ศักยภาพความเป็นผู้นำที่เป็นจุดแข็งของผู้นำองค์กรไทยคือ การประพฤติตนเป็นต้นแบบที่ดี, ใช้ประโยชน์จากการเมืองภายในองค์กรอย่างถูกต้องและเกิดประโยชน์สูงสุด, การสร้างผลสำเร็จโดยมุ่งเน้นลูกค้าเป็นหลัก
ในทางตรงกันข้าม ศักยภาพความเป็นผู้นำที่เป็นจุดที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อจะพาตนเอง ทีมงาน และองค์กรไปสู่ระดับสากลได้นั้นคือ การสร้างความสำเร็จด้วยการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล, การสรรหาพัฒนาและรักษาผู้นำรุ่นใหม่ให้กับองค์กร, การมีแนวคิดและมุมมองระดับสากลโดยใช้ประโยชน์จากกระแสโลกาภิวัตน์
นอกจากนี้ จากการศึกษาพบปัจจัยสำคัญที่ช่วยพาองค์กรที่ไม่ใช่เพียงเพื่อรอดวิกฤต แต่ยังนำมาซึ่งความยั่งยืน อันเป็นวงล้อขับเคลื่อนผู้นำและองค์กรให้ไปสู่เป้าหมายอย่างสมดุล คือ การมี Wellness Culture วัฒนธรรมการมีสุขภาพดีแบบสุขสมดุล 8 ด้าน
ดร. สุทธิโสพรรณ ช่วยวงศ์ญาติ ย้ำว่า "รอยช้ำที่ภาคธุรกิจต้องเจอตลอด 2 ปีที่ผ่านมาคือ บทพิสูจน์กึ๋นของเหล่าผู้นำที่ต้องพาองค์กรข้ามผ่านวิกฤต และสิ่งที่ท้าทายไปกว่านั้นคือ จากนี้ไปต้องสร้างความพร้อมให้กับคนในองค์กรที่จะพาองค์กรหลังวิกฤตนี้ให้เติบโตและยั่งยืนอย่างสมดุล จากบริษัทเล็ก กลายเป็นบริษัทระดับภูมิภาคและไปสู่ระดับโลก ในสิ่งแวดล้อมใหม่ที่คุณเองก็ไม่คุ้นเคย ในวันนี้เรามีข้อมูลพร้อมที่เอามาใช้ประโยชน์ ซึ่งในยุคที่ชนะกันด้วยข้อมูลนี้ เรามั่นใจว่าจากฐานข้อมูลผู้นำองค์กรไทยกว่าแสนคน ที่ผ่านกระบวนการพัฒนาทักษะมากว่า 16 ปี จะช่วยเร่งให้ผู้นำไทยพัฒนาศักยภาพการนำองค์กรและนำพาทีมไปสู่เวทีโลกอย่างไร้ข้อกังขา"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit