เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ปลื้ม TRIS ปรับอันดับขึ้นสู่ "A" ตอกย้ำการเติบโตอย่างยั่งยืนของ One Platform เติบโตอย่างมั่นคงด้วยพอร์ตโฟลิโอครบวงจรขนาดใหญ่

15 Oct 2021

บริษัท เฟรเซอร์พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ "FPT" ผู้นำบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายแรกของประเทศไทย ประกาศความสำเร็จล่าสุดด้วยการปรับอันดับเครดิตองค์กรขึ้นจากระดับ "A-" สู่ "A" พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" โดยทริสเรทติ้ง สะท้อนถึงสถานะของบริษัทฯในการเป็นบริษัทที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ (Strategically Important) ของผู้นำอสังหาฯระดับโลกภายใต้แบรนด์ Frasers Property

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ปลื้ม TRIS ปรับอันดับขึ้นสู่ "A" ตอกย้ำการเติบโตอย่างยั่งยืนของ One Platform เติบโตอย่างมั่นคงด้วยพอร์ตโฟลิโอครบวงจรขนาดใหญ่

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country Chief Executive Officer) บริษัท เฟรเซอร์พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าว "ความสำเร็จจากการปรับอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือจากทริสเรตติ้งในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของกลยุทธ์ One Platform ที่ผสานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คุณภาพทั้ง 3 กลุ่มเข้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียวกัน ทำให้ FPT สามารถกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจและสามารถสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการบริหารจัดการที่มีความยืดหยุ่นและทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ที่ท้าทายได้เป็นอย่างดี ตลอดจนความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดและรักษาสภาพคล่องทางการเงินที่สม่ำเสมอ เพื่อใช้ในการดำเนินงานและการขยายธุรกิจ"

นอกจากอันดับเครดิตจะสะท้อนถึงรายได้ที่แน่นอนและความมั่นคงของบริษัทฯ ยังเป็นการสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรตติ้งเกี่ยวกับสถานะของ FPT ที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ Frasers Property Limited (FPL) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โดยมีบทบาทเป็นผู้ลงทุนในด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยของกลุ่มบริษัทฯ

FPT ได้รับการประเมินการปรับอันดับขึ้น เนื่องจากเป็นบริษัทฯขนาดใหญ่ที่มีพอร์ตโฟลิโออสังหาฯครบวงจร ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม จึงได้รับการคาดการณ์ว่า นอกจากธุรกิจที่อยู่อาศัยที่สร้างรายได้จากการขายแล้ว กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้จากค่าเช่าจะสามารถสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอให้แก่บริษัทฯเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาฯเพื่ออุตสาหกรรมที่มีสถานะเป็นผู้นำในตลาด ทำให้เป็นที่ยอมรับในธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าในระดับประเทศและระดับสากล ตลอดจนธุรกิจมีแนวโน้มยังคงเติบโตต่อเนื่องจากลูกค้ากลุ่มโลจิสติสก์และอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจสำนักงานให้เช่า ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานเกรด A ที่ตั้งอยู่ในย่าน CBD ของกรุงเทพฯ มีอัตราผู้เช่าอยู่ในระดับสูงถึง 94-95% และธุรกิจโรงแรมที่คาดว่าจะค่อยๆฟื้นตัวดีขึ้น

เมื่อพิจารณาสภาพคล่องของบริษัทฯ พบว่าเพียงพอสำหรับการดำเนินงานในอีก 12 เดือนข้างหน้า โดยมีเงินสดสำรองในมือ 1.1 พันล้านบาท พร้อมทั้งวงเงินกู้และวงเงินสินเชื่ออีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ใช้ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถดำเนินโครงการสำคัญของทุกกลุ่มธุรกิจได้อย่างราบรื่น และพร้อมที่จะเข้าลงทุนในโอกาสธุรกิจที่สำคัญ