WP เดินเกมสร้างมูลค่าธุรกิจ เพิ่มจุดกระจายสินค้า-ลุย Export -โซลาร์ รูฟท็อป ต่อยอดผลงานครึ่งปีหลังโตยาว

15 Sep 2021

บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ตอกย้ำกลยุทธ์รับมือโควิด เน้นเพิ่มจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนอีก 20 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้ พร้อมขยายช่องทางการขาย (Export) และรุกขยายกลุ่มลูกค้าที่มี Margin สูง รวมถึงจับมือพันธมิตรลุยโซลาร์รูฟท็อป ตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้ได้เห็น 10 เมกะวัตต์ ด้าน "ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง" มั่นใจช่วยผลักดันผลงานในครึ่งปีหลังสดใส พร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจไม่ยั้ง หวังทำผลงานเติบโตอย่างยั่งยืน

WP เดินเกมสร้างมูลค่าธุรกิจ เพิ่มจุดกระจายสินค้า-ลุย Export -โซลาร์ รูฟท็อป ต่อยอดผลงานครึ่งปีหลังโตยาว

นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (WP) ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้เชื่อว่า จะยังคงเติบโตในทิศทางบวกต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกตามความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นกลุ่มรายได้หลักที่มีสัดส่วนการขายอยู่ที่ 60% ของยอดขายรวมของบริษัทฯ ขณะเดียวกันยังได้เพิ่มจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนอีก 20 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้ จากปัจจุบันมีจุดกระจายสินค้ารวมทั้งสิ้นกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ เพื่อขยายฐานกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น รวมถึงเน้นขยายช่องทางการขาย (Export) และขยายไปยังกลุ่มลูกค้าที่มี Margin สูง

นอกจากนี้ ยังรับรู้รายได้จากการลงทุนกับพันธมิตรในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์ รูฟท็อป) กำลังการผลิต 4 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2564 และรับรู้รายได้เข้ามาทันที โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ากำลังผลิตในปี 2564 ไว้ที่ 10 เมกะวัตต์ และมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ควบคู่กับการลดต้นทุนต่างๆ ที่ไม่จำเป็นลงเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ล่าสุดได้รับการอนุมัติจากบอร์ดในการซื้อกิจการโรงงานซ่อมถัง ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ ประหยัดต้นทุนและควบคุมคุณภาพได้ โดยบริษัทฯ คงเป้ายอดขาย LPG ปีนี้ไว้ที่ 6.8- 7 แสนตัน

ปัจจุบัน แบรนด์ เวิล์ดแก๊ส ของ WP มีส่วนแบ่งตลาด (Market Share) อยู่อันดับ 2 หรือคิดเป็น 18% ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน โดยมีจำนวนถังก๊าซที่อยู่ในตลาด ดังนี้ คือ ขนาด 4 กิโลกรัม จำนวน 2.1 ล้านถัง ขนาด 8 กิโลกรัม จำนวน 2 หมื่นถัง ขนาด 13.5 กิโลกรัม จำนวน 5.8 แสนถัง ขนาด 15 กิโลกรัม จำนวน 3.4 ล้านถัง และขนาด 48 กิโลกรัม 3.6 แสนถัง

"กลุ่มบริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าจากการปรับกลยุทธ์ในด้านต่างๆ ทั้งการพัฒนาประสิทธิภาพและศักยภาพภายในองค์กร เพิ่มจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือน ขยายช่องทางการขาย (Export) รวมทั้งจับมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ LPG เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้มากขึ้น และลุยโซลาร์ รูฟท็อป จะทำให้ภาพรวมธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ เติบโตต่อไปได้ และสร้างกำไรอย่างยั่งยืน แม้จะได้รับผลกระทบจากการระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ก็ตาม " นางสาวชมกมลกล่าวในที่สุด