SSP กางแผนครึ่งปีหลังจ่อ COD วินด์ฟาร์มเวียดนาม 48 MW รับรู้รายได้โซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นโครงการ Leo 1 เต็มสปีด บุก"โซลาร์ รูฟท็อป"ในอินโดฯ หนุนอนาคตโตก้าวกระโดด

26 Aug 2021

บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดแผนธุรกิจครึ่งปีหลังเดินหน้ารับรู้รายได้จากโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นโครงการ Leo 1 กำลังผลิตขนาด 20 เมกะวัตต์ ได้เต็มที่หลังจ่ายไฟฟ้าในช่วงไตรมาส 3/64 และเตรียม COD โรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามอีก 48 เมกะวัตต์ ในไตรมาส 4/64 รวมทั้งจะเริ่มรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าชีวมวล UPT 9.9 เมกะวัตต์ ฟาก ซีอีโอ"วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์" ระบุแนวโน้มผลงานครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่น ปัจจัยหนุนเพียบ รุกขยายการลงทุนโซลาร์ รูฟท็อปในอินโดนีเซีย ดันกำลังผลิตแตะ 400 เมกะวัตต์ในอีก 3-5 ปี

SSP กางแผนครึ่งปีหลังจ่อ COD วินด์ฟาร์มเวียดนาม 48 MW  รับรู้รายได้โซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นโครงการ Leo 1 เต็มสปีด  บุก"โซลาร์ รูฟท็อป"ในอินโดฯ หนุนอนาคตโตก้าวกระโดด

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากในไตรมาส3/2564 ได้จ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 1 มีกำลังการผลิตขนาด 20 เมกะวัตต์ ในประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะรับรู้รายได้ทันทีตั้งแต่ในไตรมาส 3/2564 ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือรวม 177 เมกะวัตต์

สำหรับโครงการพลังงานลมในประเทศเวียดนาม ขนาด 48 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถ COD ได้ภายในไตรมาส 4/2564 ตามแผนที่วางไว้ รวมถึงบริษัทฯ จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังผลิต 9.9 เมกกะวัตต์ หลังจากได้ทำรายการซื้อหุ้นของบริษัทยูนิ พาวเวอร์ เทค จำกัด (UPT) จากกลุ่มผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 49% ทำให้มั่นใจว่าในปี 2564 บริษัทฯจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศทะลุ 200 เมกะวัตต์ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

"แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ยังคงรักษาการเติบโตได้เป็นอย่างดี แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ทุกอย่างยังเดินหน้าได้ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งบริษัทฯจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นตามกำลังการผลิตที่สูงขึ้น ดังนั้นจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างยั่งยืน"

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่าสำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคต บริษัทฯเตรียมขยายการลงทุน Solar Rooftop ในประเทศอินโดนีเซีย โดยคาดว่าภายในปี 2564 จะ COD ได้ประมาณ 16 เมกะวัตต์ รวมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 2 ในประเทศญี่ปุ่นขนาด 17 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโครงการ และคาดว่าจะ COD ได้ในปี 2566 โดยบริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายไว้จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มไปถึงระดับ 400 เมกะวัตต์ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า