JR คว้างานใหม่ดัน backlog แตะ 5.4 พันลบ. เซ็นสัญญาซื้อขาย Access Node CAT-THIX Bangrak ของ NT ลุยประมูลงานเพิ่ม เน้นมาร์จิ้นดี หนุนผลงานปีนี้โดดเด่น

24 Aug 2021

บมจ.เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ (JR) คว้างานใหม่ลงนามสัญญาซื้อขาย Access Node CAT-THIX Bangrak จำนวน 1 ระบบ กับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT มูลค่าสัญญา 86.77 ล้านบาท ดัน backlog แตะ 5.4 พันลบ. ฟากซีอีโอ "จรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ" ระบุครึ่งปีหลังเดินหน้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง เน้นโครงการที่มีมาร์จิ้นสูงระหว่างรอลุ้นเปิดประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-สีชมพู เฟส 2 มูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท มั่นใจสนับสนุนผลงานปีนี้โตโดดเด่น

JR คว้างานใหม่ดัน backlog แตะ 5.4 พันลบ. เซ็นสัญญาซื้อขาย Access Node CAT-THIX Bangrak  ของ NT ลุยประมูลงานเพิ่ม เน้นมาร์จิ้นดี หนุนผลงานปีนี้โดดเด่น

นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR เปิดเผยว่าบริษัทได้ลงนามสัญญาซื้อขาย Access Node CAT-THIX Bangrak จำนวน 1 ระบบ กับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT มูลค่าสัญญา 86,770,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยเป็นสัญญาซื้อขายระบบสื่อสารโทรคมนาคม โดยมีระยะเวลาการส่งมอบ 180 วัน ส่งผลให้มูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 5,407.57 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ผลงานในปี 2564 เติบโตโดดเด่น

"ในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงไม่คลี่คลาย บริษัทฯยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่และส่วนใหญ่จะหันมาเน้นงานโครงการที่มีมาร์จิ้นในระดับสูง ในระหว่างที่รอการเปิดให้ประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-สีชมพู เฟส 2 มูลค่า กว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตได้ในระยะยาว "

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่าแนวโน้มการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลังยังมีทิศทางการเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมีงานในมือรอรับรู้รายได้ไว้แล้ว ซึ่งจะทยอยรับรู้ในระยะ3 ปี ขณะที่มีการประมูลงานโครงการใหม่เข้ามาเพิ่มเติม รวมทั้งบริษัทฯได้มีการขยายงานด้านวิศวกรรมไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อสร้างฐานรายได้ใหม่เพิ่มขึ้น เช่น การเข้าไปในกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ โดยเป็นงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยให้กับโครงการของบริษัทไทยออยล์ ซึ่งบริษัทฯรับงานจากกิจการร่วมค้า Petrofac South East Asia, Saipem Singapore และ Samsung Engineering โดยมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันธุรกิจของกลุ่มบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมั่นคงในอนาคต

อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 124.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 315.52 % จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 29.93 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,167.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150.50% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 466.03 ล้านบาท

ขณะที่งวดไตรมาส 2/2564 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 69.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 258.02% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 19.43 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 650.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 143.82% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 266.74 ล้านบาท