SWC โชว์ผลงานครึ่งปีแรกฝ่าวิกฤต Covid-19 รายได้เติบโตก้าวกระโดด ชูการบริหารต้นทุนมีประสิทธิภาพหนุนกำไรสุทธิ 63 ล้านบาท พุ่ง 203%

13 Aug 2021

'บมจ.เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น' หรือ SWC หนึ่งในบริษัทในเครือ TOA โชว์ศักยภาพการดำเนินธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคในครึ่งปีแรก สวนกระแสปัจจัยลบ Covid-19 ทำกำไรสุทธิ 63 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 203% รับเครื่องดื่มสมุนไพรซุปเปอร์ไฟต์ ผลิตภัณฑ์เชนไดร้ท์และทีโพล์ โปรเฟสชั่นแนล ทำยอดขายเติบโต พร้อมบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ด้านบอร์ดฯ เคาะจ่ายปันผลระหว่างกาลตอบแทนผู้ถือหุ้นในในอัตรา 0.125 บาทต่อหุ้น

SWC โชว์ผลงานครึ่งปีแรกฝ่าวิกฤต Covid-19 รายได้เติบโตก้าวกระโดด ชูการบริหารต้นทุนมีประสิทธิภาพหนุนกำไรสุทธิ 63 ล้านบาท พุ่ง 203%

นายเถกิงพล เหล่าพิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน (CFO) บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SWC ผู้ดำเนินธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการผลักดันผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 (เมษายน - มิถุนายน 2564) แม้มีปัจจัยลบจากการแพร่ระบาดไวรัส Covid-19 ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจรวมทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง โดยมีรายได้จากการขาย 486 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% และส่งผลให้ในครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2564) มีรายได้จากการขาย 795 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคภายใต้กลุ่ม SWC มีอัตราการเติบโตโดดเด่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าวมาจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเปิดตัวเครื่องดื่มสมุนไพร 'ซุปเปอร์ไฟต์' ที่ช่วยเสริมพอร์ตโฟลิโอสินค้าในกลุ่ม Food และสอดรับกับเทรนด์ผู้บริโภคในการดูแลรักษาสุขภาพ จึงได้รับการตอบรับที่ดี รวมถึงการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ Non Food ทำให้สินค้ากลุ่มเคมีเคหะภัณฑ์แบรนด์ 'เชนไดร้ท์' และน้ำยาล้างจาน 'ทีโพล์' กระจายสินค้าเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง รวมถึงทำกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แบรนด์ 'ทีโพล์ โปรเฟสชั่นแนล' ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั่วไปและน้ำยาฉีดพ่นฆ่าเชื้อ Covid-19 ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าองค์กร (B2B) เช่นเดียวกับตลาดส่งออกที่ขยายตัวได้ 85%

นอกจากนี้ บริษัทฯ มุ่งบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากปริมาณวอลุ่มการผลิตที่เพิ่มขึ้นช่วยให้ประหยัดต่อขนาดกดต้นทุนต่อหน่วยต่ำลง ประกอบกับกลุ่มสินค้าเคมีเคหะภัณฑ์ในครัวเรือนทำสัดส่วนกำไรที่ดี ส่งผลให้กำไรสุทธิของไตรมาส 2/2564 (เมษายน - มิถุนายน 2564) ทำได้ 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 200% และผลักดันให้กำไรสุทธิของครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2564) เท่ากับ 63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 203% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 มีมติเสนอจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2564 ในอัตรา 0.125 บาทต่อหุ้น เป็นจำนวนเงิน 40 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 25 เดือนสิงหาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 10 เดือนกันยายน 2564

นายเถกิงพล กล่าวว่า แผนงานครึ่งปีหลัง บริษัทฯ รุกขยายช่องทางจำหน่ายแพลตฟอร์มออนไลน์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย Facebook ของบริษัทฯ รวมทั้งขายผ่านมาร์เก็ตเพลส อาทิ Shopee Lazada สอดรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์หลังจากภาครัฐออกมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ช่องทางจำหน่ายร้านค้าปลีกดั้งเดิมและร้านค้าปลีกสมัยใหม่ต้องปิดให้บริการเร็วขึ้น ตลอดจนดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วยการทำโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย และแผนดำเนินงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และขยายธุรกิจในกลุ่ม Food อย่างต่อเนื่อง เช่น ผลิตภัณฑ์ใหม่เครื่องดื่มซุปเปอร์ไฟต์ที่มีส่วนผสมของกัญชา (CBD) ผลิตภัณฑ์ถั่วแบรนด์ 'มารูโจ้' และผลิตภัณฑ์นมและไอศกรีมแบรนด์ 'ฮอกไกโด' ช่วยผลักดันผลดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย