โมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ รับเทรนด์ธุรกรรมผ่านสมาร์ทโฟนเติบโต ครอบคลุมทั้งกลุ่มลงทุน - ธุรกรรม - ดิจิทัลไลฟ์สไตล์

08 Jul 2021

โมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ เดินหน้าอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ต่อเนื่อง ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ทั้งการลงทุน การทำธุรกรรมทางการเงิน พร้อมรองรับดิจิทัลไลฟ์สไตล์ให้ใช้บริการทางการเงินได้ทุกที่ทุกเวลา ชูไฮไลท์เด่น อาทิ การเปิดบัญชีกองทุนรวม การโอนเงินไปต่างประเทศ และการทำธุรกรรมจากบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) รวมถึงการเปิดใช้งานอีกครั้ง (Re-activate) ด้วยเลขที่บัญชีและใบหน้า รับเทรนด์ธุรกรรมผ่าน Mobile Banking เติบโต

โมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ รับเทรนด์ธุรกรรมผ่านสมาร์ทโฟนเติบโต ครอบคลุมทั้งกลุ่มลงทุน - ธุรกรรม - ดิจิทัลไลฟ์สไตล์

นางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารเดินหน้าเป็นแพลตฟอร์มที่มีความเป็นมิตร เข้าถึง และเข้าใจผู้ใช้งานอย่างแท้จริง สอดคล้องกับแนวคิดการสื่อสารแบรนด์ครั้งล่าสุด 'เปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม เข้าใจคุณมากกว่าเดิม' ของโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank Mobile Banking)

ล่าสุด โมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ ทำการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่เพื่อเติมเต็มประสบการณ์และตอบโจทย์การใช้งานด้านต่าง ๆ ได้ดีและครอบคลุมยิ่งขึ้น ดังนี้

เติมเต็มประสบการณ์ลงทุน : ลงทุนได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย 'บริการเปิดบัญชีกองทุนรวม สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่ใช้โมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ' ช่วยให้สามารถเปิดบัญชีกองทุนรวมได้อย่างรวดเร็ว ทั้งกองทุนเปิดทั่วไปและกองทุนลดหย่อนภาษี ของ บลจ.บัวหลวง และ บลจ. บางกอกแคปปิตอล รวมถึงซื้อกองทุนครั้งแรก (1st Time Buy) และกองทุนที่เสนอขายในช่วง IPO ได้ด้วย โดยไม่จำเป็นต้องไปที่สาขา

สำหรับพันธบัตรออมทรัพย์แบบไร้ใบตราสาร นอกจากลูกค้าจะสามารถจองซื้อพันธบัตรรุ่นใหม่ได้ด้วยตนเอง ธนาคารยังเพิ่มฟีเจอร์ 'แสดงรายละเอียดการลงทุนบัญชีพันธบัตร' ให้ลูกค้าเรียกดูข้อมูลพันธบัตรรุ่นที่ถือครอง และประวัติการทำรายการได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปปรับสมุดพันธบัตรที่สาขา

เติมเต็มประสบการณ์ธุรกรรมระหว่างประเทศ : ให้การทำธุรกรรมระหว่างประเทศไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วย 'บริการโอนเงินต่างประเทศ' ทั้งการโอนผ่านระบบ SWIFT ที่เลือกโอนได้มากถึง 17 สกุลเงิน ครอบคลุม 124 ประเทศทั่วโลก วงเงินสูงสุดถึงวันละ 1.5 ล้านบาท ในอัตราค่าธรรมเนียมถูกกว่าการใช้บริการที่สาขา ทั้งยังทำรายการได้ทันทีโดยไม่ต้องสมัครบริการหรือยื่นเอกสารประกอบ

นอกจากนี้ บริการ 'บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD)' ได้ขยายบริการเพิ่มเติมให้สามารถโอนเงินระหว่างบัญชีสกุลเงินบาทและบัญชี FCD ของตนเองได้มากถึง 14 สกุลเงิน สูงสุดถึง 3 ล้านบาท/รายการ โดยไม่จำกัดวงเงินสูงสุดต่อวัน ช่วยให้ลูกค้าบริหารกระแสเงินสดและความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนได้ดียิ่งขึ้น

เติมเต็มประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ : เพิ่มความสะดวกสบาย มอบประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่ราบรื่น ไม่มีสะดุด แม้จะเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ ก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและเปิดใช้งานอีกครั้ง (Re-activate) ได้อย่างปลอดภัย เพียงใช้เลขบัญชีหรือหมายเลขบัตรเดบิต พร้อมยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า ผ่านแอปได้ทันที ไม่ต้องไปสาขาหรือเครื่องเอทีเอ็ม พร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เข้าใจคุณมากกว่าเดิม ทั้งบริการเตือนเพื่อจ่ายบิล (Bill Alert) ช่วยให้ไม่พลาดทำรายการชำระบิลต่าง ๆ การปรับปรุงบันทึกช่วยจำ ให้สามารถแยกหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายได้ พร้อมใส่สติกเกอร์ อีโมจิและอักขระพิเศษได้ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เพื่อต้อนรับการเปิดประเทศด้วยบริการ ซื้อประกันภัยการเดินทาง (Travel Insurance) ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ พร้อมรับเอกสารกรมธรรม์ผ่านทางอีเมลได้หลังจากทำรายการเสร็จเรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม ธนาคารได้อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ทำธุรกรรมทางการเงินได้ด้วยตัวเองโดยไม่มีข้อจำกัดทั้งด้านเวลาและสถานที่ พร้อมเชื่อมต่อความสะดวกสบายให้ทุกบริการทางการเงินเข้าถึงลูกค้าได้โดยง่าย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ด้วยการ เปิดบัญชีเงินฝาก e-Savings ได้ด้วยตัวเอง ทุกที่ ทุกเวลา สำหรับลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยมีบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงเทพมาก่อนสามารถดาวน์โหลดโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ และเปิดบัญชีออนไลน์ "บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ e-Savings" โดยไม่มีกำหนดยอดเงินฝากขั้นต่ำ และบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ทได้เลย โดยไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีสำหรับปีแรก (ตั้งแต่ 11 ม.ค. 64 - 31 ธ.ค. 64) และสามารถยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนที่จุดบริการ Be My ID ของธนาคารทุกสาขาหรือ ร้าน Kerry Express ทั่วประเทศ

"เราให้ความสำคัญและรับฟังเสียงจากลูกค้าอยู่เสมอ เพื่อนำมาปรับปรุงและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ผู้ใช้งาน สะท้อนความตั้งใจที่ต้องการเป็น "เพื่อนคู่คิด" สำหรับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดความยุ่งยากหรือซับซ้อน ทำให้ใช้งานไม่สะดวก เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่ม"

นางปรัศนี กล่าวอีกว่า พฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันต้องการจัดการธุรกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเองผ่านสมาร์ทโฟน โดยไม่ต้องไปสาขา ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทยที่พบว่า ในไตรมาสแรกของปี 2564 คนไทยทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงก์กิ้ง มากกว่า 3,200 ล้านรายการ หรือเพิ่มขึ้นราว 10% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นถึง 88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่าการทำธุรกรรมรวมกันกว่า 11 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การเติบโตของโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ มียอดผู้สมัครใช้งาน ณ สิ้นปี 2563 เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 17% และมียอดการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มเติบโตขึ้น 60% โดยคาดว่าจำนวนผู้ใช้งานในสิ้นปี 2564 นี้ จะเติบโตได้ 30% หรือมีจำนวนผู้ใช้งานรวมกว่า 13 ล้านราย ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้

สามารถอัปเดตและเข้าใช้งานแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ และข้อมูลอื่นที่น่าสนใจของธนาคาร ได้จากสื่อประชาสัมพันธ์ของธนาคารกรุงเทพทุกช่องทาง ได้แก่ www.bangkokbank.com, Bangkok Bank Line Official หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.1333 หรือ 0 2645 5555 ./

โมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ รับเทรนด์ธุรกรรมผ่านสมาร์ทโฟนเติบโต ครอบคลุมทั้งกลุ่มลงทุน - ธุรกรรม - ดิจิทัลไลฟ์สไตล์