TNP โชว์งบ Q1/64 กำไรโตแรงอยู่ที่ 57.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80.66%

12 May 2021

ธนพิริยะ หรือ TNP เผยงบไตรมาสแรกปี 64 สุดสตรอง โกยกำไรสุทธิอยู่ที่ 57.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80.66% ส่วนรายได้จากการขายทำได้เกือบ 752 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.31% รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ และการขยายสาขาตามแผนที่วางไว้ โดยปัจจุบันมีสาขาอยู่ที่ 33 สาขา หนุนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 16.21% อัตรากำไรสุทธิ 7.54% ย้ำความมั่นใจเป้าหมายปี 64 มีสาขารวมกันทั้งสิ้น 37 สาขา ส่วนเป้าหมายรายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้

TNP โชว์งบ Q1/64 กำไรโตแรงอยู่ที่ 57.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80.66%

นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึง ผลประกอบการของบริษัทฯ งวดประจำไตรมาสที่ 1/2564 มีกำไรสุทธิเติบโตอย่างน่าประทับใจ อยู่ที่ 57.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 25.46 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 80.66 โดยมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 7.54 เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น

โดยมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 751.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 204.30 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 37.31 โดยการเพิ่มขึ้นของยอดขายส่วนหนึ่งมาจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนจากภาครัฐที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยอย่างคึกคัก แม้ยังอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สนับสนุนให้ภาพรวมยอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.3 และการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ส่งผลให้ยอดขายรวมเพิ่มสูงขึ้น โดยในปี 2563 บริษัทฯ ได้ขยายสาขาจำนวน 4 สาขา และในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 บริษัทฯ ได้ขยายสาขาเพิ่มจำนวน 1 สาขา

ส่งผลให้กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 121.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 34.54 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 39.55 โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 16.21 การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเกิดจากการเติบโตของยอดขายผ่านสาขาและการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่ารายได้จากการขายส่งของสำนักงานใหญ่ และการได้รับค่าสนับสนุนการขายจากผู้จำหน่ายซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทฯ มีการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่อง

ด้านเภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 1/2564 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทฯ ได้ให้บริการตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า พนักงาน และประชาชนในจังหวัดทุกคน ตลอดจนสินค้าที่จำหน่ายเป็นสินค้าเพื่ออุปโภคและบริโภค มีความจำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ในช่วงเวลาดังกล่าวภาพรวมกำลังซื้อภายในสาขาของบริษัทฯ ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และด้วยแรงกระตุ้นของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปรับวงเงินซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น สนับสนุนรายได้ที่ออกมาในไตรมาสแรกของปีนี้โดดเด่น ควบคู่การขยายสาขาได้ตามเป้าหมาย และการบริหารจัดการภายในที่ดี ทำให้ต้นทุนปรับลดลง และกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่ง

สำหรับสาขาของบริษัท ณ สิ้นไตรมาส 1/2564 มีจำนวน 33 สาขา ได้แก่ จังหวัดเชียงราย 27 สาขา จังหวัดพะเยา 4 สาขา และจังหวัดเชียงใหม่ 2 สาขา พร้อมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่เป็นโอกาสเข้ามาจำหน่าย สำหรับปี ณ สิ้นปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้าจะมีสาขารวมกันทั้งสิ้น 37 สาขา จากสิ้นปี 2563 อยู่ที่ 32 สาขา และตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 10%