กลุ่มสุขุมวิทยา ทุ่มแปลงสภาพเจมาร์ท วอร์แรนต์ กว่า 1,120 ล้านบาท ให้เจมาร์ท เสริมฐานทุนให้เข้มแข็ง เพื่อแปรสภาพในบริษัทย่อยรวมกันกว่า 1,860 ล้านบาท

01 Apr 2021

เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง แม่ทัพใหญ่กลุ่มเจมาร์ท "อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) และในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ สร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนเจมาร์ทเพิ่มเติม ทุ่มแปลงสภาพวอร์แรนต์ เพื่อสร้างฐานเงินทุนให้กับบริษัทฯ และนำไปสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ล่าสุด โดยในรอบการแปลงสภาพวอร์แรนต์ครั้งล่าสุดที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ใช้เงินสำหรับการแปลงสภาพในครั้งนี้ กว่า 1,120 ล้านบาท รวมประเดิมแปลงสภาพ JMART-W3 ที่ราคาใช้สิทธิ 11 บาทต่อหุ้น และ JMART-W4 ที่ราคาใช้สิทธิ 15 บาทต่อหุ้น รวมทั้งหมดกว่า 84 ล้านหน่วย ทั้งนี้ ในรอบการแปลงสภาพครั้งนี้ เงินที่ได้รับจากการแปลงสภาพจากผู้ถือหุ้นใหญ่ เจมาร์ท ได้นำเงินไปแปลงสภาพวอร์แรนต์ในบริษัทย่อย ทั้งหมด ได้แก่ JMT-W2 ซึ่งใช้เงินกว่า 1,219 ล้านบาท SINGER-W2 ใช้เงิน 378 ล้านบาท และ J-W1 ใช้เงิน 270 ล้านบาท ซึ่งรวมกันแล้วใช้เงินกว่า 1,860 ล้านบาท ทั้งนี้ ด้วยความมั่นใจในผลประกอบการของบริษัทย่อย รวมถึงต้องการสร้างฐานทุนที่แข็งแกร่งมากขึ้น โดยมั่นใจว่าบริษัทย่อยจะสามารถเติบโตขึ้นในอนาคต ทำ All Time High ต่อเนื่องในปีนี้ และปีต่อไป

กลุ่มสุขุมวิทยา ทุ่มแปลงสภาพเจมาร์ท วอร์แรนต์ กว่า 1,120 ล้านบาท ให้เจมาร์ท เสริมฐานทุนให้เข้มแข็ง เพื่อแปรสภาพในบริษัทย่อยรวมกันกว่า 1,860 ล้านบาท

ทั้งนี้ การแปลงสภาพวอร์แรนต์ ในครั้งนี้ทำให้บริษัทเจมาร์ท มีฐานเงินทุนที่เพิ่มขึ้น มีอัตราส่วนหนี้สินที่ภาระดอกเบี้ยต่อทุน (Interest Bearing Debt to Equity) ลดลงเป็นต่ำกว่า 2 เท่า ในปลายปี 2564 นี้ ลดลงจาก 2.31 เท่า ณ สิ้นปี 2563 ที่ผ่านมา ทำให้ความเสี่ยงทางด้านการเงินลดลง มีเงินสดเพิ่มขึ้น และนอกจากนี้เจมาร์ท ยังนำเอาเงินที่ได้รับจากการแปลงสภาพ ไปลงทุนแปลงสภาพวอร์แรนต์เพิ่มใน JMT ซึ่งจะทำให้ฐานทุนของ JMT เข้มแข็งมากขึ้น อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลง ซึ่งจะเสริมศักยภาพใน JMT เตรียมลุยซื้อหนี้ NPL และ NPA เข้ามาบริหารในปีนี้เพิ่มเติมอีกไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท สร้างกำไรเพิ่มให้กับการลงทุนของเจมาร์ท

สำหรับ SINGER ภายหลังจากที่เจมาร์ท แปลงสภาพวอร์แรนต์ ลงทุนเพิ่มเติมจะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดให้สำหรับการขยายพอร์ตสินเชื่อรถทำเงิน และสินเชื่อเช่าซื้อ ดันให้เข้าเป้าพอร์ตสินเชื่อรวม 10,000 ล้านบาทได้ และการแปลงสภาพใน J จะเสริมฐานทุนทำให้ มีกระแสเงินสด เพื่อการเปิดตัวอสังหาริมทรัพย์แห่งที่ 5 โครงการ The Jas Village คู้บอน ซึ่งจะสร้างกระแสรายได้ ให้ตามเป้าหมายได้ในอนาคต