รวมปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับยาง เมื่อจอดรถไว้นานโดยไม่ใช้งาน

การจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานานอาจดูเป็นเรื่องปกติ แต่รู้หรือไม่ว่าส่งผลเสียต่อยางรถยนต์มากกว่าที่คิด เพราะไม่ใช่แค่เรื่องยางหมดอายุการใช้งานเท่านั้นที่อันตราย แต่ยังมีปัญหาด้านอื่น ๆ ที่หลายคนอาจมองข้ามกันไป วันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ มาแชร์ให้กับทุกคนที่ไม่ค่อยได้ใช้รถ พร้อมวิธีดูแลยางเมื่อไม่ค่อยได้ใช้งานมาฝากกัน

3 ปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับยางรถยนต์ เมื่อจอดทิ้งไว้นานโดยไม่ใช้งาน

เมื่อรถยนต์ไม่ได้เคลื่อนที่เป็นเวลานาน ยางซึ่งเป็นชิ้นส่วนเดียวที่ต้องแบกรับน้ำหนักทั้งหมดจะเริ่มแสดงอาการผิดปกติออกมาอย่างช้า ๆ ซึ่งปัญหาหลักที่ผู้ใช้รถมักจะต้องเผชิญเมื่อกลับมาใช้งานรถอีกครั้งนั้นมีอยู่ 3 สาเหตุสำคัญที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ

1. โครงสร้างยางเสียรูปทรง หรืออาการ Flat Spot

น้ำหนักตัวรถที่กดทับลงบนหน้ายาง ณ ตำแหน่งเดิมเป็นเวลานาน จะทำให้โครงสร้างภายในของยางเกิดการเสียรูปทรงจนแบนเรียบ หรือที่เรียกว่าอาการ Flat Spot ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการสั่นสะเทือนขณะขับขี่ในช่วงแรก และหากทิ้งไว้นานเกินไป อาจทำให้ยางเสียรูปทรงอย่างถาวรจนไม่สามารถใช้งานได้

2. แรงดันลมยางลดต่ำจนเสี่ยงระเบิดเมื่อกลับมาใช้

โดยธรรมชาติ ลมยางจะค่อย ๆ ซึมออกมาช้า ๆ การจอดรถทิ้งไว้โดยไม่มีการตรวจเช็ก ทำให้แรงดันลมยางลดต่ำลงกว่าค่ามาตรฐาน เมื่อนำรถกลับมาวิ่งอีกครั้ง ยางที่อ่อนเกินไปจะเกิดความร้อนสะสมสูงและบิดตัวผิดรูปอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่ความเสี่ยงของยางระเบิดได้

3. เนื้อยางเสื่อมสภาพและเกิดรอยแตกลายงา

การที่ยางไม่ได้หมุนใช้งาน จะทำให้สารเคมีในเนื้อยางที่ช่วยปกป้องและสร้างความยืดหยุ่นไม่กระจายตัวอย่างทั่วถึง ประกอบกับการสัมผัสกับแสงแดดและความร้อนเป็นเวลานาน จะเร่งให้เนื้อยางแข็งกระด้างและเกิดรอยแตกลายงาบริเวณแก้มยาง ซึ่งเป็นสัญญาณของยางที่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร

วิธีดูแลรักษายางเบื้องต้น เมื่อต้องจอดรถทิ้งไว้นาน

แม้ว่าการจอดรถนาน ๆ จะส่งผลเสียต่อยางได้ แต่เราสามารถป้องกันและลดความรุนแรงของปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยวิธีการดูแลรักษาที่ไม่ยาก ซึ่งการใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ จะช่วยยืดอายุการใช้งานและคงประสิทธิภาพของยางให้พร้อมสำหรับทุกการเดินทาง

1. ตรวจเช็กและเติมลมยางให้เหมาะสมอยู่เสมอ

ควรตรวจเช็กแรงดันลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง และเติมลมให้ได้ตามค่ามาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนดเสมอ เพราะการรักษาแรงดันลมยางให้เหมาะสมจะช่วยรักษารูปทรงของโครงสร้างยาง ลดโอกาสการเกิด Flat Spot และป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับแก้มยางได้เป็นอย่างดี

2. ขยับรถเล็กน้อยเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งหน้ายาง

หากเป็นไปได้ ควรนำรถออกมาขับเคลื่อนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรืออย่างน้อยเพียงแค่ขยับรถไปข้างหน้า-ข้างหลังเล็กน้อย เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งของหน้ายางที่สัมผัสพื้น การทำเช่นนี้จะช่วยกระจายแรงกดทับของน้ำหนักรถ ไม่ให้จุดใดจุดหนึ่งต้องรับภาระนานเกินไป และช่วยป้องกันอาการ Flat Spot ได้ดีขึ้น

การดูแลรักษายางอย่างสม่ำเสมอแม้ในช่วงที่ไม่ได้ใช้งาน คือสิ่งสำคัญที่ช่วยยืดอายุและรักษาประสิทธิภาพของยางให้พร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย หากถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนใหม่ PIRELLI คืออีกตัวเลือกที่ดีสำหรับคนใช้รถ ด้วยซีรีส์ยางที่หลากหลายและเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก 

สนใจสั่งซื้อยางวันนี้ รับโปรโมชั่นพิเศษทันที ผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อซื้อยางครบ 4 เส้น ผ่านร้านยางชั้นนำทั่วประเทศ ศูนย์บริการ B-Quik และ MMS ทุกสาขา หรือช่องทางออนไลน์ ShopeeLazada และ Tiktok Shop พร้อมรับประกันคุณภาพ 1 ปีหรือ 25,000 กม. ในกรณีบาด บวม แตก เคลมฟรีทันที