ในยุคปัจจุบัน “กระเป๋าแบรนด์เนม” ไม่ใช่แค่เครื่องประดับ แต่คือ “สินทรัพย์” ที่ชนะเงินเฟ้อและน่าลงทุน บางรุ่นราคาพุ่งสูงกว่าทองคำเสียอีก แต่ปัญหาคือเมื่อต้องการใช้เงินสด หลายคนกลับเสียดายที่จะขายกระเป๋าใบโปรดทิ้งไป บทความนี้จะพาคุณไปเช็กลิสต์ 5 รุ่นกระเป๋ายอดนิยมที่ควรซื้อเก็บ พร้อมแนะนำบริการ bagforcash ทางเลือกใหม่ที่จะเปลี่ยนกระเป๋าของคุณเป็นเงินทุนหมุนเวียนได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดใจขาย
5 กระเป๋าแบรนด์เนม “ตัวท็อป” ที่น่าลงทุนที่สุดในปี 2025
หากคุณกำลังมองหากระเป๋าใบแรก หรือใบถัดไปเพื่อเข้าคอลเลกชัน เราขอแนะนำ 5 รุ่นนี้ที่รับประกันว่าราคาดี ไม่มีตกเทรนด์ และเป็นที่ต้องการของตลาดเสมอ
1. Hermès Birkin
ราชินีแห่งกระเป๋าที่ไม่ใช่แค่มีเงินก็ซื้อได้ ความหายากและขั้นตอนการผลิตที่ประณีตทำให้ Birkin ครองตำแหน่งกระเป๋าที่น่าลงทุนที่สุดตลอดกาล ราคาในตลาด Resale สามารถพุ่งสูงกว่าราคาช็อปไปไกลหลายเท่าตัว เป็น Ultimate Asset ที่สภาพคล่องสูงมากในวงการลักชัวรี่ ด้วยขนาดที่มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 25, 30, 35 ไปจนถึง 40 และหนังชนิดพิเศษ ยิ่งทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลก
2. Hermès Kelly
ตำนานความสง่างามที่ตั้งชื่อตามเจ้าหญิงเกรซ เคลลี่ ด้วยรูปทรงที่มีโครงสร้างชัดเจนและสายสะพายที่ใช้งานได้จริง ทำให้ Kelly เป็นอีกรุ่นที่ราคาปรับขึ้นทุกปี การมีไว้ในครอบครองเปรียบเสมือนการถือหุ้น Blue Chip ที่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นทรง Sellier ที่ดูเป็นทรง หรือ Retourne ที่ดูผ่อนคลาย ก็ล้วนเป็นที่ต้องการ โดยเฉพาะไซส์ Mini และ 25 ที่ราคาพุ่งสูงมาก
3. Chanel Classic Flap
“ใบเดียวจบ” คือคำนิยามของรุ่นนี้ ด้วยดีไซน์อมตะ สายโซ่ร้อยหนัง และตัวล็อก CC ไขว้ ราคาของ Chanel Classic Flap พุ่งทะยานอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนกลายเป็น Must Have Item ที่สาวๆ ทั่วโลกต้องมี การปรับราคาขึ้นปีละหลายครั้งทำให้คนที่ซื้อเก็บไว้ก่อนหน้านี้ทำกำไรได้มหาศาล เรียกว่ายิ่งเก็บไว้นาน ยิ่งมีมูลค่าเพิ่ม
4. Lady Dior
สัญลักษณ์แห่งความเลอค่าที่ได้รับความนิยมจากเจ้าหญิงไดอาน่า การตัดเย็บลาย Cannage อันเป็นเอกลักษณ์ทำให้ Lady Dior ดูหรูหราเหนือกาลเวลา โดยเฉพาะรุ่นหนัง Lambskin และไซส์ Mini หรือ Small ที่กำลังมาแรงในยุคนี้ และรุ่นที่มี Charms ตัวอักษร D.I.O.R ห้อยระย้า เพิ่มความเฟมินีน เป็นกระเป๋าที่แมตช์กับชุดออกงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ
5. Celine Triomphe
น้องใหม่มาแรงที่ก้าวขึ้นมาเป็น It Bag แห่งยุค ด้วยโลโก้ Triomphe สีทองโดดเด่น ทำให้ Celine รุ่นนี้ราคาพุ่งไม่หยุด และกลายเป็นกระเป๋าที่วัยรุ่นและคนทำงานยุคใหม่ต้องมีติดตู้ การนำโลโก้ Archive จากยุค 70s กลับมาปัดฝุ่นใหม่ ทำให้ได้กลิ่นอายวินเทจที่เข้ากับเทรนด์แฟชั่นปัจจุบันอย่างลงตัว
เปลี่ยนกระเป๋าเป็น “สภาพคล่อง” โดยไม่ต้องขายทิ้ง
การลงทุนซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม 5 รุ่นข้างต้น ไม่ใช่แค่เรื่องของแฟชั่น แต่เป็นการออมเงินในรูปแบบของสินค้าลักชัวรี่ ข้อดีคือเมื่อไหร่ที่คุณต้องการเงินด่วน หรือต้องการเงินทุนหมุนเวียนทางธุรกิจ คุณไม่จำเป็นต้องตัดใจ “ขายขาด” กระเป๋าลูกรักเสมอไป
ปัจจุบันมีบริการที่เรียกว่า bagforcash จาก JIPJIPMONEY ที่เข้าใจคนรักกระเป๋าอย่างแท้จริง บริการนี้ช่วยให้คุณเปลี่ยนกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นเงินด่วนได้ชั่วคราว โดยที่คุณยังเป็นเจ้าของกระเป๋าอยู่ ซึ่งบริการ bagforcash จาก JIPJIPMONEY ก็มีข้อดีที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
เงื่อนไขยืดหยุ่น: ดอกเบี้ยต่ำสามารถต่อสัญญาได้ไม่จำกัด ไถ่ถอนคืนได้สะดวกเมื่อคุณพร้อม ดังนั้น การมีกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นยอดนิยมติดตู้ไว้ จึงเปรียบเสมือนคุณมี “บัตรกดเงินสดวงเงินสูง” ติดตัว หากวันไหนจำเป็นต้องใช้เงิน ก็แค่ใช้บริการ bagforcash เพื่อรับเงินก้อนไปหมุนเวียน แล้วค่อยมารับน้องกระเป๋ากลับบ้านทีหลัง เป็นวิธีบริหารเงินที่ชาญฉลาดสำหรับสาวยุคใหม่ที่รักทั้งแฟชั่นและการลงทุน
- ให้วงเงินสูง: ประเมินวงเงินอย่างยุติธรรม มีระบบราคากลางที่ประมวลผลแม่นยำและเป็นธรรม
- ปลอดภัย 100%: เก็บรักษาในห้องนิรภัยแบบ 1 : 1 มาตรฐานระดับโลก ที่มีระบบกันไฟ 7 ชั่วโมง พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงวงเงินคุ้มครองในกรณีฉุกเฉิน เพื่อรักษาสภาพหนังกระเป๋าของคุณให้เหมือนเดิมทุกประการ
- เงื่อนไขยืดหยุ่น: ดอกเบี้ยต่ำสามารถต่อสัญญาได้ไม่จำกัด ไถ่ถอนคืนได้สะดวกเมื่อคุณพร้อม ดังนั้น การมีกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นยอดนิยมติดตู้ไว้ จึงเปรียบเสมือนคุณมี “บัตรกดเงินสดวงเงินสูง” ติดตัว หากวันไหนจำเป็นต้องใช้เงิน ก็แค่ใช้บริการ bagforcash เพื่อรับเงินก้อนไปหมุนเวียน แล้วค่อยมารับน้องกระเป๋ากลับบ้านทีหลัง เป็นวิธีบริหารเงินที่ชาญฉลาดสำหรับสาวยุคใหม่ที่รักทั้งแฟชั่นและการลงทุน